WANG HING HOI

“เปิดประสบการณ์และสัมผัสทั้ง 4 ที่ วังหิ่งห้อย”

Text: เต็มภัทร์ เกตุสมบูรณ์
Photo: ฉัตรชัย เจริญพุฒ

ในยามค่ำคืนกับแสงสีเหลืองดวงเล็กๆ ระยิบระยับ บินว่ายวนท่ามกลางหมู่ไม้ธรรมชาติของแมลงตัวน้อยอย่าง “หิ่งห้อย” แมลงที่สามารถสะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์และความสมดุลของธรรมชาติ สร้างความสวยงามให้กับทุกราตรี ถ้ากล่าวถึงปัจจุบันในเมืองกรุงแล้ว อย่างกรุงเทพมหานครแห่งนี้ เราอาจจะได้เห็นแต่แสงสว่างของดวงไฟละลานตา จากตึกอาคารบ้านเรือน ดวงไฟจากรถติดวับวาวทั่วกรุง ซึ่งอาจเป็นความต่างระหว่าง “ป่า” กับ “เมือง” กันอย่างสิ้นเชิง

หากแต่คุณได้เปิดประสบการณ์ใหม่กับพื้นที่สุดพิเศษ ที่จำลองป่าไม้ธรรมชาติ ดื่มด่ำไปกับแรงบันดาลใจที่หลอมรวมศาสตร์และศิลป์ไว้ด้วยกัน ณ ร้าน “วังหิ่งห้อย” ร้านอาหารในใจกลางมหานคร สรรสร้างจากแนวคิดที่สื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ ผ่าน “ธาตุแห่งชีวิต” ทั้งสี่ ได้แก่ ดิน น้ำ ลม และไฟ ผสมผสานโครงสร้างของความเป็นธรรมชาติ และงานออกแบบสถาปัตยกรรม ที่นำเสนอออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ

จากการเปิดตัวของ “วังหิ่งห้อย” ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา พร้อมสัมผัสแรงบันดาลใจจาก ‘ดิน’ มาตลอดระยะเวลาสี่เดือน ในช่วงเวลาของย่ำค่ำนี้ วังหิ่งห้อยได้เดินทางเข้าสู่ช่วงที่สอง ‘ลม’ ที่จะพัดพาไปสู่ประสบการณ์ใหม่ ทั้งรูป รส กลิ่น และเสียง เต็มทุกรูปแบบ

ด้วยการสร้างสรรค์อาหารจากความร่วมมือของเชฟทั้งสาม ผู้คว่ำหวอดในวงการอาหารมาอย่างยาวนาน เชฟนิค- ณัฏฐพล ภวไพบูรณ์, เชฟอ๊อฟ-ณัฐวุฒิ ธรรมพันธุ์ และเชฟอ้น-สุวิจักขณ์ แก้วสิริมงคล พร้อมจะมาแสดงศักยภาพของอาหารไทยว่าสามารถพัฒนารสชาติสู่ระดับสากลได้ อาหารที่ได้รับการสร้างสรรค์อย่างพิถีพิถันผ่านแรงบันดาลใจจาก “ลม” หนึ่งในธาตุแห่งชีวิต

พร้อมเสิร์ฟกับเมนูแรก LAST LEAF ที่เปรียบดังการเปลี่ยนผ่านจากธีมดินสู่ธีมลม เสมือนใบไม้พริ้วไหวจากสายลมที่พัดผ่าน อีกทั้งด้วยไข่มดแดงบนใบชะมวง ราดด้วยซอสเปปเปอร์แจม สูตรพิเศษจากทีมเชฟที่รับประกันความอร่อยกลมกล่อม, FINEST เป็นเมนูกระทงทอง ทานคู่ซอสรสมิ้นต์ และเกี๊ยวทอดสอดไส้ปูและครีมชีส มานำเสนอในรูปแบบคล้ายกับไข่นกในรัง เป็นเมนูเรียกน้ำย่อยก่อนการโบยบินของนก เพื่อเข้าสู่เมนูถัดไป,TRI ANGELS เมนูเนื้อกุ้งลายเสือผัดซอสมะนาวกระเทียมบนแป้งตอติญ่าทอดกรอบทรงสามเหลี่ยม ที่เปรียบดังปีกนางฟ้าที่ใช้โบยบินอยู่บนอากาศ,SAILOR ว่าด้วยเรื่องการใช้ลมเป็นปัจจัยหลักในการเดินเรือเพื่อออกหาวัตถุดิบ จึงพบกับเมนูหนวดปลาหมึกสไลด์บางพร้อมซอสยูซึ โรยด้วยเยรูซาเล็ม อาติโช๊ค สไลด์ทอดกรอบและไข่ปลารสชาติเปรี้ยวสดชื่น,VANILLA SKY เมนูเนื้อวากิวที่เปรียบเสมือนพระอาทิตย์ที่ล่องลอยท่ามกลางก้อนเมฆ แล้วกำลังจะลาลับขอบฟ้าสีทอง, MONSOON เมนูนี้ลมมรสุมที่พัดพาเครื่องเทศ และสมุนไพรหลายชนิดมารวมอยู่ในจานนี้ เพื่อให้มีรสชาติที่หลากหลาย เป็นเมนูหอยเชลล์ ราดซุปจากสมุนไพรและหอยตลับที่นำมารีดิวซ์ เสิร์ฟพร้อมขนมปังกรอบให้รสชาติเปรี้ยว เผ็ด และเข้มข้น,TROPICAL WIND สีสันและความสนุกสนานของทะเลเขตร้อน รังสรรค์เมนูส้มซันคิส ราสเบอร์รี่ แบล๊คเบอร์รี่ พร้อมซอสคีย์ไลม์ เปรี้ยวหวาน สดชื่น , TRIO SPELL เสียงที่เกิดจากเครื่องดนตรีสามชิ้นใช้ลมเป็นตัวนำพาเสียง มาออกเป็นเมนูปลากริมไข่เต่าสามรส และ SUGAR HIGH เมนูเครมบรูเล่ บวกกับข้าวเหนียวสังขยา ความเคลิ้บเคลิ้มจากความหวานที่ได้รับ เป็นเมนูที่ปิดท้ายธีมลมได้อย่างลงตัว

นอกจากนี้ ยังมีนิทรรศการศิลปะในรูปแบบอินเตอร์แอคทีฟที่ผู้เข้าชมสามารถมีส่วนร่วมสนุกกับงานศิลปะได้ที่ Glow Museum เพื่อสร้างประสบการณ์จากรูป กลิ่น เสียง และสัมผัสภายใต้คอนเซปต์ ‘Wind & Mind’ จากศิลปินชื่อดัง อาทิ Bit Studio, คุณกวิตา วัฒนะชยังกูร, คุณชมพูนุช วนิชยางกูรานนท์ และคุณเมธี จันทรา โดย คุณประธาน ธีระธาดา บรรณาธิการอำนวยการนิตยาสาร ART4D และประธานมูลนิธิเพื่อการออกแบบ เป็นที่ปรึกษาในการแสดงงานครั้งนี้

 

LOCATION
สนามกอล์ฟ R.C.A Driving Range ถนนกำแพงเพชร 7 เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
Tel.091-979-6226

Leave A Comment