THE PATTERN BOUTIQUE HOTEL

Sewing the Happiness and Comfy

TextBoonake A.
Photo: ภคนันท์ เถาทอง

เราเคยเห็น เคยรับรู้ และบางคนอาจจะคุ้นเคยกับการเข้าพักโรงแรมแบบที่เรียกว่า Boutique Hotel กันมาอย่างคุ้นเคยในวันที่นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ชอบแสวงหาประสบการณ์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่แตกต่างออกไป แต่ผมเชื่อเหลือเกินว่ากับโรงแรมที่ชื่อว่า The Pattern Boutique Hotel นั้น คุณจะต้องได้รับประสบการณ์ในการเข้าพักรูปแบบใหม่ที่คุณไม่เคยเจอจากที่ไหนแน่นอน

ประสบการณ์รูปแบบใหม่ที่ว่ามาจากการสร้างเรื่องราวในโรงแรมด้วยคอนเซปต์แห่งการเป็นโรงงานเย็บผ้าในสมัยโบราณ แค่ได้ฟังเท่านี้ก็น่าสนใจแล้ว ผมเลยลองเสิร์ชหาในเว็บไซต์รีวิวโรงแรมชั้นนำ เพื่อเข้าไปดูรูป และเข้าไปค้นหารายละเอียดต่างๆ ก็ยิ่งพบความพิเศษของบูติคโฮเตลแห่งนี้

ความพิเศษที่ว่าทำให้นักท่องเที่ยวที่เคยมาพักที่ต่างๆให้เรตรีวิว 5 ดาวแบบรัวๆ พร้อมกับคอมเมนต์ที่บ่งบอกได้ถึงความประทับใจในทุกสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเข้าพักต่างๆ นาๆ

ซึ่งคำชื่นชม รวมกับภาพความสวยงามที่ผมเห็นจากการรีวิวนี้แหละที่นำพาให้ Daybeds ต้องมาที่ซอยกรุงธนบุรี 6 อันเป็นที่ตั้งของโรงแรมเพื่อดูให้เห็นกับตา และเก็บรื่องราวต่างของบูติกโฮเทลแห่งนี้มาขยายต่อเป็นการรีวิว โดยมีคุณนุ่น – ภัทรพร ชุติชวาลนันท์ ซีอีโอของ The Pattern Boutique Hotel เป็นผู้เล่าเรื่องราวอันน่าสนใจของโรงแรมแห่งนี้ให้เราฟังทั้งหมด

เริ่มต้นเราถามถึงที่มาที่ไปการเกิดขึ้นของ The Pattern Boutique Hotel กับคุณนุ่น ซึ่งเธอเล่าให้ฟังว่าแรกเริ่มเดิมทีนั้นอาคาร 3 คูหาแห่งนี้เคยเป็นโรงงานเย็บเสื้อผ้าเด็กมาก่อน ดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนาน จนเลิกทำไปเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง อาคารดังกล่าวจึงถูกปิดไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร

หลังจากคุณนุ่นจบการศึกษาด้านการโรงแรม ประกอบกับทางบ้านเองก็เปิดธุรกิจโรงแรมอยู่ในซอยกรุงธนบุรี 6 อยู่แล้ว เมื่อเธอได้มาเห็นตึกร้างดังกล่าว เธอจึงมองเห็นโอกาสในการต่อยอดธุรกิจโรงแรมของทางบ้านออกไปเป็นธุรกิจที่ 2 นั่นก็คือการนำอาคารนี้มารีโนเวตทำเป็นบูติคโฮเต็ล

ในการรีโนเวตนั้นคุณนุ่นเล่าให้เราฟังว่า เธอและทีมงานนักออกแบบ รวมถึงผู้รับเหมาก่อสร้างใช้เวลาในการสร้าง แก้ไขปรับปรุงในส่วนต่างๆ อยู่ราว 1 ปีครึ่ง จนสำเร็จออกมาเป็นภาพตามความคิดที่เธออยากเห็นในท้ายที่สุด

ทีนี้ก็มาถึงรายละเอียดของคอนเซปต์อันเป็นตัวตนหลักในการนำเสนอไปสู่สาธารณะกันบ้าง คุณนุ่นให้ข้อมูลกับเราว่า ด้วยความที่อาคารแห่งนี้เคยมีอดีตเป็นโรงงานเย็บเสื้อผ้ามาก่อน เธอเองจึงอยากนำตัวตนของอาคารมาตีความใหม่เพื่อนำตัวตนของโรงงานเย็บผ้าในอดีตมาบรรจุไว้ในโรงแรมแห่งนี้ให้มากที่สุด

จิตวิญญาณความเป็นโรงงานเย็บผ้าปรากฏอยู่ในการตกแต่งของโรงแรม อาทิผนังกำแพงที่ถูประดับด้วยกระเบื้องไล่สี ที่มีแพทเทิร์นลวดลายแบบ Patchwork แผ่นหนังที่ถูกนำมากรุติดกับเสาที่มีการเย็บริมเก็บเป็นแพทเทิร์นสวยงาม ผ้าคุลมโซฟา เบาะรองนั่งที่ถูกเย็บเป็นลายผ้าล้อไปกับลายกระเบื้องผนัง

รวมถึงของตกแต่งอย่างจักรเย็บผ้าโบราณที่ผ่านการใช้จริงในโรงงาน และข้าวของเครื่องใช้ในการเย็บผ้าต่างๆ ที่นำมาวางประดับไว้ที่ห้องโถงกลางของโรงแรม

ล้วนสะท้อนเรื่องราวในอดีตที่เคยเกิดขึ้นภายในโรงงานเย็บผ้าได้เป็นอย่างดี จนคุณนุ่นกล้ายืนยันกับเราว่า The Pattern Boutique Hotel คือโรงแรมธีมโรงงานเย็บผ้าแห่งแรกในประเทศไทย

นอกเหนือจากความพิเศษด้านการออกแบบธีม คอนเซปต์ ที่ ความดีงามที่ทำให้บูติคโฮเทลแห่งนี้เป็นที่จดจำและบอกต่อกันในโลกออนไลน์ตามเว๊บไซต์แนะนำโรงแรมของไทยก็คือโลเคชั่นของโรงแรมที่ตั้งอยู่ในซอยกรุงธนบุรี 6 ซึ่งมีความเป็นท้องถิ่นแบบจริงจังที่คุณนุ่นให้คำนิยามกับมันว่า “เสน่ห์แห่งฝั่งธนฯ”

เสน่ห์แห่งฝั่งธนฯที่ว่า คุณนุ่นขยายความให้เราฟังว่าเริ่มต้นตั้งแต่ที่ตั้งที่ในซอยกรุงธนบุรี 6 ซึ่งเต็มไปด้วยชีวิตชีวาของคนพื้นถิ่น ที่ทำมาหากินประกอบอาชีพทำงานาในโรงงานเย็บผ้า และโรงงานจิวเวลลี่

ดังนั้นในซอยนี้จึงเต็มไปด้วยเรื่องราวที่ปราศจากการปรุงแต่ง และร้านอาหารข้างทางมากมายที่คนพื้นถิ่นทานจริงๆ เป็นเสน่ห์ที่ยากจะหาได้จากแหล่งพำนักของนักท่องเที่ยวชื่อดังที่อื่นๆ

ไม่เพียงเท่านั้น ด้วยความที่โลเคชั่นของซอยตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินไปท่องเที่ยวได้อีกหลากหลายที่ไม่ว่าจะเป็น ไอคอนสยาม,ล้ง1919 ,วัดพระแก้วและพระบรมมหาราชวัง, เยาวราช  หรือแม้กระทั่งเดินไปหาของกินอร่อยๆ จากร้านขึ้นชื่อย่านเจริญนครได้ไม่ยาก

หรือถ้าอยากเข้าเมืองไปแฮงค์เอาท์ตามสุขุมวิท ทองหล่อ หรือเอกมัย ก็ทำได้ง่ายดายเพียงเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าสถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรีหน้าปากซอยเท่านั้น

ทำให้การมาพักที่นี่จึงเป็นเสมือนประตูที่พานักท่องเที่ยวทุกคนไปค้นหาตัวตนของฝั่นธนบุรีในมุมมองเชิงลึก ที่ไม่ได้ถูกจำกัดแค่เพียง สีลม สุขุมวิท หรือตรอกข้าวสาร

ย้อนกลับมาที่รายละเอียดของโรงแรมอีกครั้ง ในส่วนของห้องพักในโรงแรมมีทั้งหมด 12 ห้อง ถูกแบ่งออกเป็นทั้งหมด 6 รูปแบบ ซึ่งในแต่ละแบบนั้นถูกกำหนดชื่อห้องให้เป็นเหมือนขนาดของเสื้อ ที่เริ่มต้นตั้งแต่ XS,S,M,L,Xl และไซส์ใหญ่สุดคือ XXl

โดยการออกแบบแต่ละห้องนั้นคุณนุ่นได้นำกิมมิคแห่งความสนุกเข้าไปเพิ่มสีสัน นั่นคือการสร้างห้องให้มีลักษณะคล้ายกับการไปนอนบ้านเพื่อนสมัยมัธยม ด้วยการใช้เตียงสองชั้นเข้าไปเป็นองค์ประกอบหลัก ให้แขกที่มาพักได้นอนเล่นนอนคุยกันได้แบบสนุกสนาน

และในแต่ละห้องจะมีการนำอารมณ์และกิมมิคของงานเย็บผ้าเข้าไปเป็นส่วนประกอบ ทั้งผนังกำแพงลาย Patchwork ราวแขวนเสื้อติดผนังลักษณะคล้ายกับราวแขวนเสื้อในโรงงาน หรือตู้เสื้อผ้าไม้ที่จำลองมาจากตู้แขวนเสื้อที่ใช้กันตามร้านตัดเสื้อในสมัยโบราณ

เรานั่งคุยกับคุณนุ่นต่อถึงมุมไฮไลท์ที่แขกชอบ เธอบอกกับเราว่ามุมที่แขกชอบมากที่สุดก็คือในส่วนของล๊อบบี้ที่สูงโล่งโปร่ง สามารถนั่งพูดคุยกันได้อย่างสบาย หรือจะสั่งเครื่องดื่มมานั่งชิลล์ทอดอารมณ์ได้

และอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ถูกพูดถึงมากที่สุด ก็คือ Net Bed ที่ถูกขึงตึงอยู่เหนือหัวบริเวณล๊อบบี้ ซึ่งเป็นอีกมุมที่แขกของโรงแรมมักจะมานั่งเล่น นอนเล่น อ่านหนังสือ หรือพักผ่อนทอดอารมณ์ในระหว่างวันได้อย่างสบาย

นอกเหนือจากกิมมิคของห้องพักและไฮไลท์ต่างๆ ที่กล่าวไป สิ่งที่จะทำให้แขกทุกคนประทับใจมากที่สุดคือเรื่องงานบริการ คุณนุ่นบอกว่าคีย์หลักของงานบริการของ The Pattern Boutique Hotel ก็คือความเป็นมิตร และการดูแลแขกทุกคนให้เป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน ทั้งยังมีการให้คำแนะนำรายละเอียดต่างๆ ของพื้นที่เพื่อให้แขกสามารถเดินค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย

รวมถึงการบริการอาหารเช้าที่ได้รับความพิถีพิถันในการเลือกสรร ไม่ว่าจะเป็นขนมปังโฮลวีทสูตรสั่งทำพิเศษขึ้นมาเพื่อใช้ในโรงแรมโดยเฉพาะ หรือจะเป็นอาหารเช้าสูตรเฉพาะที่พ่อคุณนุ่นเคยทำให้ทานในวัยเด็กเช่นกุ้งผัดพริกกระเทียม,น้ำซุปแตงกวา,ซุปไข่,ซุปหมูสับสาหร่าย หรือเป็นซุบหัวไชเท้ากระดูกหมู  และอีกหลากหลายเมนูสลับกันไป เป็นอาหารเช้า Full Set แบบเฉพาะที่หาทานมาจากที่ไหน

ทั้งหมดคือความใส่ใจ และความตั้งใจที่คุณนุ่นบรรจุลงไปในทุกรายละเอียดของโรงแรม The Pattern Boutique Hotel ซึ่งทำให้เราไม่แปลกใจกับคอมเมนต์ชื่นชมที่ถูกพูดถึงในแทบจะทุกเว็บไซต์แนะนำโรงแรม และจะดีมากถ้าผู้อ่านของ Daybeds ทุกคนจะได้ลองมาสัมผัสกับสิ่งที่เราได้เล่าให้ฟัง ซึ่งเราเชื่อว่าคุณจะได้รับอวลความสุขและความอบอุ่นของพื้นที่แห่งนี้กลับไปอย่างแน่นอน

 

 

 

Leave A Comment