THE MASK RANGERS
หน้ากากมนุษย์ฮีโร่
‘Siam Rangers เป็นฮีโร่มันเหนื่อย’ คือ นิทรรศการเดี่ยวในรอบ 7 ปี ของ คุณปรียวิศว์ นิลจุลกะ หรือที่เรารู้จักกันดีในนาม “ปาล์ม Instinct” ศิลปิน-นักร้อง นักแต่งเพลง มากความสามารถ ขวัญใจวัยรุ่น ในฐานะฟร้อนท์แมนวง Instinct (วง Girl เดิม) เจ้าของเพลงฮิตอย่าง “โปรดส่งใครมารักฉันที” แต่ยังมีอีกมุมหนึ่งที่ใครหลายคนอาจไม่รู้ว่า คุณปรียวิศว์ ชื่นชอบในงานศิลปะ และ รักการวาดภาพ ไม่ได้น้อยไปกว่าการร้องเพลงเลย เกิดเป็นที่มาของนิทรรศการที่ทีมเดย์เบดส์ได้มีโอกาสสัมผัส และแน่นอนว่าคงอดไม่ได้ ที่อยากจะส่งต่อเรื่องราวนั้นสู่ผู้อ่าน
“โปรเจ็กต์นี้เราใช้เวลาทำเกือบ 2 ปี จริงๆ ควรทำเสร็จเร็วกว่านี้ แต่ด้วยงานทัวร์ตอนเสิร์ตที่ค่อนข้างแน่น งานอื่นๆ ที่รุมกันไปหมดกินเวลาในการทำงานศิลปะของเรามาก” คุณปรียวิศว์ทักทายแทนคำตอบ หลังเราเย้าว่าแอบไปวาดภาพมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ก่อนจะเริ่มเล่าที่มาของนิทรรศการ ที่บ่มเพาะความหลงใหลและความเคยชินของกิจวัตรในวัยเยาว์ และจากการเดินทางไปใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่นกับคุณพ่อเมื่อตอน 8 ขวบ มาสร้างเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนงาน
“เราเริ่มทำงานศิลปะหลังเรียนจบจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ เอกจิตรกรรม มหาลัยศรีนครินทรวิโรฒ แต่คนมักรู้จักเราในมาดนักร้อง จริงๆ เราทำทั้งสองอย่างคู่กันมาตลอด เราเป็นคนจับปลาสองมือ เรารักการวาดภาพสั่งสมประสบการณ์ความชื่นชอบจากการดูการ์ตูนอยู่เสมอ โดยเฉพาะผลงานลักษณะการ์ตูนที่เป็นยอดมนุษย์ ยุคนั้นก็จะชอบเรื่อง ไลฟ์แมน ดราก้อนบอล เซนต์เซย่า มันก็ซึมซับมาอยู่ตลอด และด้วยส่วนตัวเรามันเป็นคนนิสัยขี้จิกกัด ก่อนจะทำงานชิ้นนี้เราพยายามมองหาอะไรที่เกิดขึ้นในโซเชียล จากประสบการณ์ ก็เลยหยิบยกตำรวจมาใช้ในงานศิลปะ เราว่าตำรวจคือฮีโร่ และฮีโร่ก็คือยอดมนุษย์ แต่การเป็นยอดมนุษย์ หรือฮีโร่ มันไม่ได้ง่าย มันมีอะไรหลายอย่าง ที่ทำให้รู้สึกว่า บางทีการเป็นฮีโร่มันเหนื่อยเหมือนกันนะ”
นิทรรศการในครั้งนี้จึงเป็นการสื่อสารและนำเสนอเกี่ยวกับตำรวจทั้งสะท้อนให้เห็นมุมมองว่าหลายคนผิดหวังจาก ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เมื่อได้อ่านและเห็นเรื่องราวประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม เรื่องของตำรวจก็เป็นเรื่องที่ทุกคนได้รับรู้อยู่ตลอดเวลาทั้งแง่บวกและแง่ลบ เพราะตำรวจเป็นอาชีพที่เข้าถึงคนไทยมากที่สุดอาชีพหนึ่ง ทุกๆ คนเคยมีประสบการณ์บางอย่างกับตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดีหรือไม่ดี จะโดยทางตรงหรือรับรู้ผ่านสื่อต่างๆ
ถามว่ารู้สึกกลัวบ้างไหมที่ทำเรื่องนี้ …กลัวสิ!! (หัวเราะ) แต่สำหรับเราความหมายของศิลปะคือการสื่อสารที่ให้ประสิทธิภาพมากกว่าคำพูด และการกระทำ แสดงตัวตนของเรามากกว่า ต่างจากดนตรีที่ไม่สามารถดึงความเป็นตัวเองออกมาได้เต็มที่ ซึ่งเราได้หยิบยกเรื่องตำรวจมาขมวดอยู่ในงานเพื่อสะท้อนอาชีพตำรวจหรือในทุกอาชีพ ว่าเออ…มันมีทั้งดีและไม่ดีปะปนกันหมด เราต้องการใช้ผลงานสื่อสารเพื่อสะท้อนสังคมจากข่าวปัจจุบันทั่วไปภายใต้ชุดเครื่องแบบ
ซึ่งภาพทั้งหมดภายในนิทรรศการ คุณปรียวิศว์ใช้เทคนิคสีอะคริลิคบนผืนผ้าใบ โดยเลือกใช้โทนสีสดใสเป็นหลัก คล้ายกับภาพตามแบบฉบับของการ์ตูน โดยจะมีการร่างภาพลงในคอมพิวเตอร์ก่อน จากนั้นก็หยิบพู่กันมาระบายสีลงบนผืนผ้าใบอีกรอบหนึ่ง ถึงแม้จะมีเวลาจำกัดจากงานหลัก แต่ด้วยใจรักในการวาดภาพ จึงไม่ละทิ้งความชอบแต่กลับทำงานทั้งสองอย่างนี้ควบคู่มาตลอด ซึ่งนอกจากตำรวจ คุณปรียวิศว์ยังสนใจในเรื่องอื่นๆ อีกด้วย
“เราอยากทำเรื่องเกี่ยวกับพระ มันมีประเด็นที่น่าสนใจ แต่มีคนเบรคเยอะมาก ก็ต้องพักไว้ก่อน แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องพระ เราก็อยากทำเรื่องเกี่ยวกับ Rock อภิชนผู้ไม่ค่อยแคร์ใคร ทำอะไรแล้วมันดูร็อคจัง แต่อาจเป็นการล้อเลียนเหมือนเดิม โดยจะฉีกรูปแบบที่แตกต่างออกไป เรามองว่าศิลปะเป็นสิ่งที่สะท้อนความคิด ตัวตน สังคม ออกมาผ่านการวาดภาพบนผืนผ้าใบ ซึ่งอาจจะซ่อนอะไรบางอย่างไว้ เราอยากให้คนที่เข้ามาชมนิทรรศการในครั้งนี้ ได้ดูและเข้าใจ รู้สึกกับมันได้ แค่รู้สึกก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว ซึ่งการหยิบยกตำรวจมาเป็นคาแร็กเตอร์ตัวเอกในครั้งนี้ มันก็สามารถสะท้อนทุกอาชีพได้เหมือนกัน เป็นการถามกับคนดูด้วยว่า ทุกการกระทำมันก็อยู่ที่คุณว่าอยากเป็นฮีโร่แบบไหน จะเป็นฮีโร่แค่ในการ์ตูนหรือในชีวิตจริง สุดท้ายก็อยู่ที่ตัวเรา”
ผลงานจิตรกรรมกว่า 20 ชิ้น และงานประติมากรรมขนาดเท่าคนจริงอีก 1 ชิ้น ที่รวบรวมมานำเสนอในนิทรรศการครั้งนี้ มีความน่าสนใจและโดดเด่นทางด้านเนื้อหาที่เข้าใจง่าย เหมือนการสะท้อนมุมมองศิลปินในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่มีต่ออาชีพตำรวจ ทั้งชื่นชม ทั้งขมขื่น ครบทุกรสชาติ โดยความตั้งใจของ คุณปรียวิศว์ ไม่อยากให้มองผลงานชิ้นนี้เป็นมุมใดมุมหนึ่ง ถ้ามองข้ามสี 5 สี จะเข้าใจ และรู้ว่าภาพวาดนี้สื่อถึงอะไรเพราะไม่ได้ทิ้งปรัชญาไว้มากมาย โดยนิทรรศการ ‘Siam Rangers เป็นฮีโร่มันเหนื่อย’ นิทรรศการเดี่ยวในรอบ 7 ปีของคุณปาล์ม-ปรียวิศว์ นิลจุลกะ จะเปิดการแสดงตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 10 กันยายน 2560 ณ หอศิลป์ศุภโชค ดิ อาร์ต เซนเตอร์ (สุขุมวิท 39)
Text: นันทกาญณ์ ศรีวิชัย
Photo: ฉัตรชัย เจริญพุฒ
