THE GLAMOUR OF ARCHITECTURE


เย้าสถาปัตยกรรมอันยวนใจ ในโอโมเตะซันโด 

 

เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ทีมเดย์เบดส์ถือโอกาสหลบอากาศร้อนเมืองไทย ไปรับความเย็นที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นมา โดยมีผู้สนับสนุนหลักใจดีอย่าง บริษัทอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ซึ่งแน่นอนว่านอกจากสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในญี่ปุ่นที่เราได้ไปเยือนมาแล้ว เรายังไม่พลาดบุกเส้นทางที่ได้ชื่อว่าเป็น Champs- Élysées แห่งโตเกียว อย่างถนน Omotesando

โอโมเตะซันโด คือ ถนนชอปปิ้งในย่านฮาราจูกุ ที่มีจุดเริ่มต้นจากแยกหน้าศาลเมจิ (Meiji Shrine) ในเขตชิบูย่า ทอดยาวโอบล้อมไปด้วยต้นไม้อันร่มรื่นตลอดไปยังถนน เอโอยามะ โดริ ในเขตมินาโตะของกรุงโตเกียว ถนนสายนี้เป็นแหล่งรวมสถาปัตยกรรมที่สำคัญที่สุดของโลกอีกหนึ่งแห่ง อันประกอบไปด้วยร้านค้า และศูนย์การค้าหลากดีไซน์มากมาย

เริ่มต้นที่ Dior ออกแบบโดยสถาปนิกผู้เคยได้รางวัล Pritzker อย่าง SANAA ตัวอาคารล้อมรอบด้วยกำแพงแก้วโปร่งใสรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมู เปิดเผยบรรยากาศภายในร้านที่เต็มไปด้วยคอลเลคชั่นเก่า-ใหม่จากแบรนด์ที่คล้ายลอยอยู่บนวัตถุโปร่งใสที่เกิดจากการวางบนชั้นวางอะคริลิกที่จงใจวางวางในความสูงลดหลั่น ยิ่งสวยงามมากยิ่งขึ้นเมื่อเปิดไฟในเวลากลางคืน

ร้านค้าที่เป็นมากกว่าร้านขายเสื้อผ้า The Espace Louis Vuitton เปิดตัวในปี 2554 ออกแบบโดยสถาปนิกชาวญี่ปุ่น Jun Aoki โดยนำรูปทรงของกล่องสี่เหลี่ยมหลากขนาดมาเรียงซ้อนกัน โดดเด่นสะดุดตาด้วยการซ้อนทับของวัสดุ 3 ชนิดที่แตกต่างกันอย่างสีเงินของตาข่ายโลหะ แผงสแตนเลสขัดสีกุหลาบและทอง และกระจกที่สร้างความลึกให้กับวัสดุทั้งหมด ทำให้ตัวอาคารคล้ายภาพลวงตา 3 มิติเหลือบสลับสี ที่ชั้นบนสุดถูกออกแบบคล้ายกล่องกระจกสี่เหลี่ยม ทำหน้าที่ทั้งสถาปัตยกรรมที่กระตุ้นสายตาของคนที่ผ่านไปมาบนถนนโอโมเตะซันโด และยังเป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการที่ส่งเสริมการสร้างงานศิลปะร่วมสมัยใหม่ๆ อีกด้วย

ที่ Tod’s อาคารรูปทรงตัว L ตระหง่านด้วย Façade คอนกรีตรูปกากบาทที่ซ้อนทับไปมาห่อหุ้มโครงสร้างกระจกเลียนรูปทรงกิ่งก้านของต้น Zelkova ที่เรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง ผลงานการออกแบบของ Toyo Ito ความราบเรียบของพื้นผิวคอนกรีตด้านนอกอาคารนอกจากให้ความงามด้านงานดีไซน์ ยังทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันกระจกใสแบบไร้กรอบไร้เสาภายในให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น อีกทั้งลวดลายกราฟฟิกของเส้นสายยังช่วยดึงดูดผู้คนให้เข้ามาชมสินค้า โดยพื้นที่ 7 ชั้น ส่วนชั้นล่างของตัวอาคารทำหน้าที่เป็นร้านค้าจำหน่ายเครื่องหนังจากแบรนด์อิตาลี Tod’s ชั้นกลางและบนเป็นพื้นที่ของสำนักงานและส่วนอเนกประสงค์

อีกหนึ่งอาคาร ที่เราชื่นชอบที่สุดบนถนนสายนี้ คือ The Prada Aoyoma อาคารหกชั้นที่ดึงความเหลี่ยมของเพชรมาใช้ใน Façade ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน ก็สร้างความแตกต่างให้กับรูปทรงที่มองเห็น และเมื่อเข้าใกล้ยิ่งดึงดูด จากวัสดุที่มีความแบน เว้า และนูน คล้ายกับฟองอากาศ สร้างมิติแปลกตาคล้ายรุ้งเมื่อกระทบแสงพระอาทิตย์ และสะท้อนภาพที่แตกต่างกันออกไปหากมองจากภายในตัวอาคาร ผลงานการออกแบบสถาปนิกชาวสวิสเซอร์แลนด์  Herzog & de Meuron

อีกหนึ่งอาคารคอนกรีตที่มีดีไซน์โดดเด่น บนถนนโอโมเตะซันโด Hugo Boss ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังชาวญี่ปุ่น Norihiko Dan โดดเด่นด้วย Façade รูปทรงคล้ายกับนาฬิกาทรายขนาดใหญ่อันประกอบสร้างจากเสาที่ทำจากเหล็กเสริมคอนกรีตเลียนโครงสร้างของต้น Zelkova แต่สร้างความแตกต่างให้อาคารคอนกรีตที่อยู่เคียงข้างในคอนเซ็ปต์เดียวกันอย่าง Tod’s ด้วยการทำมุมทะแยง สร้าง Symbiotic ที่หยอกเย้าสิ่งก่อสร้างบนถนนละแวกนั้นด้วยรูปทรงและมุมมองที่เปลี่ยนไป

นอกจากอาคารที่ได้ยกมาให้ชม สองข้างทางบนถนนเส้นนี้ ยังมีผลงานจากดีไซเนอร์ระดับโลกอีกเพียบให้ชื่นชมทั้งห้างสรรพสินค้าหรู Omotesando Hills ที่มีมากกว่า 130 ร้านค้า และพื้นที่อยู่อาศัย 38 อพาร์ทเม้นท์ ออกแบบโดย Tadao Ando เน้นความกลมกลืนกับภูมิทัศน์ด้วยความสูงเพียง 3 ชั้นของตัวอาคารที่ไม่เหนือไปกว่าต้นไม้  และลูกเล่นตัวอักษรบนอาคารที่นอกจากสร้างความสบายให้กับเราตอนแหงนมอง ยังปนความขี้เล่นนิดๆ ของดีไซเนอร์ที่ซ่อนอยู่ในงานออกแบบ และอีกหลากร้านรวง ที่หากใครชื่นชอบงานโครงสร้างเปี่ยมไอเดีย และแรงบันดาลใจ รับรองว่า Champs-Élysées แห่งโตเกียว ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน

Text: ทัดจันทร์  เกตุสิงห์สร้อย
Photo: ทัดจันทร์  เกตุสิงห์สร้อย

 

Leave A Comment