THE TEE OFF HOUSE
“เสน่ห์ของบ้านใกล้สนามกอล์ฟ”
Text: อุบลวดี พงษ์ทองวัฒนา
Photo: จาก Hypothesis
คุณชินพัชร์ เตมีประเสริฐกิจ ตัดสินใจซื้อที่ดินผืนนี้ เพราะอยู่ท่ามกลางความเขียวของคอร์ตหญ้าของสนามกอล์ฟ ในระยะใกล้ๆ ก็กันไม่มีบ้านหลังอื่น จึงมีความเป็นส่วนตัวสูง จึงต้องการออกแบบบ้านให้เห็นวิวสีเขียวชัดเจน ฟังค์ชั่นในบ้าน เน้นความเรียบง่าย มีห้องเท่าที่จำเป็น และเตรียมพื้นที่ส่วนหนึ่งไว้เพื่อลูกน้อยโดยไว้วางใจให้สถาปนิก พลสิทธิ์ แซ่เฮ้ง และ ธัชพล ธนบุญชัย จาก Hypothesis ออกแบบให้ “เมื่อได้คุยกับเจ้าของบ้าน เราก็ได้ทราบข้อมูลมาค่อนข้างครบถ้วน เพราะเจ้าของบ้านเขามีในใจอยู่แล้วว่า บ้านที่ต้องการเป็นแบบไหน ซึ่งสไตล์ของบ้านก็ตรงกับบุคลิกของเจ้าของบ้าน ที่เป็นคนกันเอง ง่ายๆสบายๆ แบบบ้านที่คิดไว้ เน้นความเรียบง่าย สไตล์มินิมอล ฟังค์ชั่นการใช้งานในบ้าน เบสิคแบบบ้านทั่วๆไป มีห้องนั่งเล่น มีครัวกลาง ซึ่งเป็นเหมือนมุมที่โดดเด่นของบ้าน เนื่องจากครอบครัว เป็นบ้านที่ชอบทำอาหารรับประทาน และมีแขกมาสังสรรค์พอสมควร แพนทรี่ครัว จึงเป็นหนึ่งจุดเด่นสำคัญของบ้าน”
“บริเวณชั้นสอง มีห้องทำงาน มีมาสเตอร์ เบทรูม ต่อเชื่อมกับ Walk in Closet และ ต่อเชื่อมไปถึงห้องนอนอีกห้อง ที่เตรียมไว้สำหรับลูก ซึ่งตอนออกแบบบ้าน เจ้าของบ้านยังไม่มีลูก แต่ก็บอกกับเราไว้ว่า อยากให้ทำห้อง Walk in Closet เชื่อมต่อถึงกัน เพื่อว่าในอนาคตมีลูกสาว คุณแม่ก็อยากจะแชร์ห้องแต่งตัวกับลูก และสามารถเดินไปห้องลูกได้ เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ เป็นลอยตัว เพื่อสามารถปรับเปลี่ยนได้ หากต้องการขยายบ้าน หรือ เปลี่ยนมุมของบ้านในอนาคต”
สวนในบ้านก็เน้นความมินิมอล มีต้นไม้ใหญ่ไม่กี่ต้น และเป็นสวนกรวดแบบญี่ปุ่น เพราะดูแลง่าย ที่สำคัญคือ บ้านอยู่ติดกับสนามกอล์ฟอยู่แล้ว บรรยากาศโดยรอบ ค่อนข้างสวยงาม ร่มรื่น และมีสีเขียวของธรรมชาติรายล้อม ดูแล้วสบายตา จึงออกแบบให้เปิดมุมมองทางด้านที่หันไปหาสนามกอล์ฟแบบโปร่งโล่ง ถ้าอยู่บริเวณชั้นสอง ทุกห้อง ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงาน ห้องนอน จะเห็นสวนเห็นความเขียวของสนามกอล์ฟอย่างชัดเจน
แต่การอยู่ใกล้สนามกอล์ฟมากเกินไป ก็เกิดปัญหาที่คาดไม่ถึงว่า จะรุนแรง และเป็นอันตราย คุณพลสิทธิ์ แซ่เฮ้ง เล่าให้ฟังว่า “ที่ดินอยู่ใกล้สนามกอล์ฟ เราก็พอจะคาดเดาได้ว่า อาจจะมีลูกกอล์ฟตกลงมาในบ้านได้ แต่ก็ไม่ได้คิดว่า จะรุนแรง จนเมื่อเร่ิมงานก่อสร้าง วันหนึ่งคนงานก็บอกให้ไปดู คือ เกิดปัญหาว่า ลูกกอล์ฟที่ตกเข้ามาในบ้าน มีความแรงมาก ทำความเสียหายให้กับหลังคาบ้านพักคนงานพอสมควร เราจึงปรึกษากับเจ้าของบ้านในเรื่องนี้ และก็ระดมความคิดกันว่า จะต้องหาทางป้องกัน ไม่ให้เกิดปัญหาลูกกอล์ฟตกเข้ามาในบ้านได้ เพราะอาจจะเป็นอันตรายกับเจ้าของบ้าน อาจจะทำให้กระจกแตก ซึ่งก็จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในวันข้างหน้า”
จากการระดมความคิด ได้ข้อสรุปว่า การออกแบบ Facade ด้วยอลูมิเนียมฉีก น่าจะแก้ปัญหานี้ได้ดีที่สุด “เราเลือกหลายวัสดุมาก จนมาลงตัวที่อลูมิเนียมฉีก ซึ่งมีความโค้งมน มีความบาง และมีช่องขนาดใหญ่ พอที่จะมองเห็นวิวภายนอก แสงและลมลอดผ่านได้ หากต้องปิด เพื่อป้องกันอันตรายจากลูกกอล์ฟ โดยเราออกแบบให้มี Facade เป็นเหมือนด่านป้องกัน อยู่โดยรอบของตัวบ้าน โดยออกแบบเป็นบานหน้าต่าง ที่แยกอิสระจากกัน สามารถเปิดปิดทั้งหมด หรือเปิดปิดเพียงบางส่วน ก็ได้ โดยเราแก้ปัญหาความรู้สึกอึดอัด หากอยู่ในบ้าน ด้วยการเพิ่มระยะห่างของตัวบ้านกับ Facade ด้วยทางเดิน ที่นอกจากจะเดินเชื่อมถึงกันได้ ยังสามารถเป็นมุมพักผ่อนได้”
อลูมิเนียมฉีก ที่เลือกใช้มีความบางเบา และเมื่อผ่านการอบอโนไดซ์ นอกจากช่วยให้อะลูมิเนียมทนทานขึ้น ยังช่วยลดความไม่คม ไม่ระคายหรือบาดมือ ในขณะเปิดปิด และหากโดนความแรงของลูกกอล์ฟมากระทบ ความโค้งมนของอะลูมิเนียมฉีก ก็ช่วยให้รองรับไว้ โดยไม่เกิดร่องรอยความเสียหาย การทำความสะอาดก็ง่าย เพียงฉีดน้ำฝุ่นที่เกาะก็หลุดออกได้อย่างง่ายดาย
จากที่กลัวว่า จะทำให้รู้สึกอึดอัด กลับทำให้ความเรียบง่ายของบ้าน มีความน่าสนใจมากขึ้น ในแต่ละระยะเวลาของวัน ในเวลาที่แสงแดดตกกระทบ จะทำให้เกิดเงาที่ทอดเข้าไปในตัวบ้าน มีมิติที่หลากหลาย มองแล้วสวยงามไม่เหมือนกัน ซึ่งเจ้าของบ้านก็พอใจ และทีมงานก็เลือกใช้อลูมิเนียมฉีกกับส่วนอื่นๆ ของตัวบ้าน เพื่อร้อยให้เป็นเรื่องราวเดียวกัน
จากความเรียบง่าย มินิมอล จึงกลายเป็นบ้านที่มีความโดดเด่น ไม่ใช่แต่เพียงเจ้าของบ้านเท่านั้น ที่ได้เห็นความสวยงามจากภายใน ยามค่ำคืน เมื่อเปิดไฟ ความเรืองรองจากแสงนวล ที่รอดผ่าน Facade ออกมาทำให้บ้านมีความสะดุดตาชวนมองมากยิ่งขึ้น