SMALL SPACES, SIMPLE LIVING

ชีวิตเรียบง่ายในพื้นที่กะทัดรัด

“แพงกว่าเสื่อ ถูกกว่าพรม ดูดีเหมือนพรม และทำความสะอาดง่ายเหมือนเสื่อ” คุณดิว-ดุลยพล ศรีจันทร์ ที่ปรึกษาด้านการออกแบบบริษัท PDM (Product Design Matters) และผู้ก่อตั้ง PDM Brand บอกกับเราถึงคำนิยามที่กระชับได้ใจความของเสื่อลวดลายกราฟิก ‘Mat Collection’ โปรดักซ์ชิ้นล่าสุดของ PDM Brand ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากอยู่ในขณะนี้

บทสนทนาระหว่างเรากับดีไซเนอร์หนุ่มมากความสามารถ มีขึ้นใต้อาคารพาณิชย์มีอายุของสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาฯ ในเขตสามย่าน ภายหลังจากที่เราเฝ้าติดตามผลงานเสื่อที่ออกสื่อแขนงต่างๆ มาสักระยะ Daybeds ฉบับ Another Workspace จึงถือโอกาสนี้ติดต่อผ่าน คุณไอซ์-จตุวัฒน์ ศรีจันทร์ บรรณาธิการบทความ นิตยสาร Esquire น้องชายของคุณดิว เพื่อขอเข้ามาติดตามเรื่องราวของ PDM Brand อย่างใกล้ชิด พร้อมเยี่ยมชมโฮมออฟฟิศตกแต่งใหม่ในบ้านเก่าที่เพิ่งแล้วเสร็จได้ไม่นานนี้ นับตั้งแต่คุณดิวกลับมาอยู่เมืองไทยอีกครั้ง หลังจากได้ทุนไปศึกษาต่อด้านศิลปกรรมที่ School of Art and Design Helsinki (Aalto University) ประเทศฟินแลนด์ ก่อนไปใช้ชีวิตและทำงานอยู่ที่ประเทศเยอรมันกับนอร์เวย์อยู่ช่วงหนึ่ง

“กลับมาก็ยังทำต่อ แต่งานที่มันงอกมาด้วยคือการสอนหนังสือ” คำบอกเล่าของคุณดิว หมายถึงการทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับอีกหลายแบรนด์ใหญ่ๆ นอกเหนือไปจากต้องบริหารจัดการ PDM Brand ของตัวเอง โดยมีหน้าที่เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งอย่างก็คือ การเป็นอาจารย์สอนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ที่เขาใช้ทุนไปศึกษาต่อนั่นเอง

ณ โฮมออฟฟิศในบ่ายวันที่ไม่มีงานสอน คุณดิวและคุณซินิ เฮนท์โตเนน (Sini Henttonen) ดีไซเนอร์สาวชาวฟินแลนด์ ผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบคอลเลคชั่นต่างๆ ของเสื่อลวดลายกราฟิกจาก PDM Brand นั่งทำงานด้วยกันอย่างเงียบๆ ภายในพื้นที่ขนาดกะทัดรัดที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายพอประมาณ “PDM คนละครึ่งกับ (เป็นพาร์ทเนอร์) Kenkoon” คุณดิวตอบคำถามเรื่องจำนวนสมาชิกที่เราสงสัย “ฝ่ายการเงินและบัญชีจะไม่ต้องมานั่งที่นี่ จะมีแค่คุณซินีที่นั่งดูแลเรื่องเสื่อทั้งหมด และน้องๆ ที่วันนี้ไม่ได้มา อาชีพที่ปรึกษาด้านการออกแบบมันต้องทำงานกับคนเยอะๆ คิดว่าอยู่ข้างนอกมันพอแล้ว ในออฟฟิศเราอยากอยู่กันแบบเงียบๆ ไม่พลุกพล่าน มีคนทำงานอยู่ประมาณ 3-4 คน”

เป็นเวลาเนิ่นนานกว่า 15 ปีแล้วที่คุณแม่ของคุณดิวย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ แล้วเปิดพื้นที่ชั้นล่างประกอบธุรกิจร้านทำผมซึ่งมีลูกค้าแวะเวียนมาใช้บริการไม่ขาดสายตลอดทั้งวัน คุณแม่มนแอบกระซิบกับเราด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มว่า “คนเราทำงานไม่ต้องเดินทางมันมีความสุขที่สุดแล้ว” เชื่อว่าอิทธิพลของประโยคบอกเล่าประโยคนี้ของคุณแม่ คงแผ่ไปถึงคุณดิวด้วยเช่นกัน คุณดิวจึงล้มเลิกความตั้งใจที่จะออกไปเช่าพื้นที่เพื่อสร้างออฟฟิศใหม่ที่อื่น แล้วหันมาปรับปรุงพื้นที่ชั้นล่างด้านหลังบ้านที่เชื่อมต่อกับร้านทำผมให้เป็นโฮมออฟฟิศขนาดกะทัดรัดแทน โดยเน้นโทนสีขาวของผนังเป็นหลัก มีการรื้อฝ้าเพดานเพื่อโชว์ความดิบของแนวแผ่นกระดาน

พื้นไม้เก่าที่เป็นโครงสร้างเดิมทั้งหมด นอกจากนี้คุณดิวยังนำผ้าขาวผืนใหญ่มากั้นแบ่งเป็นผนังชั่วคราว สูงจากพื้นจรดเพดาน โดยที่ยังสามารถเดินผ่านเข้าออกได้อย่างสะดวกทั้งสองทาง ภายในลักษณะอาคารที่เป็นตึกแถวตอนลึกขนาด 1 คูหา ความสูง 3 ชั้น ถัดขึ้นไปบนชั้นสองคือส่วนของห้องครัวและห้องนอนของคุณพ่อคุณแม่ และชั้นสาม คือห้องนอนของคุณดิวและคุณไอซ์

พื้นที่ตรงนี้เปลี่ยนแปลงจากเดิมไปอย่างสิ้นเชิงหลังจากปรับปรุงใหม่ ด้วยความเป็นดีไซเนอร์ คุณดิวจึงเลือกใช้ต้นทุนในการทำออฟฟิศที่ไม่สูงนัก เลือกใช้วัสดุง่ายๆ ราคาไม่แพงเป็นหลัก โดยอาศัยการสเกตช์ภาพด้วยมือแล้วส่งให้ช่างทำตามแบบ ส่วนเก้าอี้ที่ใช้นั่งทำงานก็เป็นผลงานการออกแบบของคุณดิวเองเกือบทั้งหมด เจ้าตัวบอกว่ารู้สึกดีไม่น้อยที่มีออฟฟิศเล็กๆ ที่บ้าน เพราะได้ทั้งทำงานและอยู่กับครอบครัวในเวลาเดียวกัน

“คุณแม่คงไม่อยากให้ผมไปเช่าอยู่ที่อื่น ผมว่าทำงานที่บ้านมันก็รู้สึกดีนะครับ วันไหนไม่มีงานสอนก็ลงมาเจอออฟฟิศ นั่งทำงานได้เลย พ่อกับแม่เดินลงมาก็อยู่ใกล้กันดี น้องไปทำงานก็ผ่านทางนี้ แถวนี้ของกินก็อร่อย เป็นโซน Culture Area มันไม่ได้หรูหราเหมือนย่านเอกมัย แต่ผมว่ามันได้เห็นชีวิต จะไม่แห้งเหมือนสตูดิโอเมืองนอก

นอกจากนี้คุณดิวยังเล่าย้อนไปถึงที่มาของ Mat Collection ซึ่งเกิดขึ้นจากความคิดเล็กๆ ของคุณซินิ ผู้ช่วยของเขาที่เกิดความสงสัยว่าทำไมประเทศไทยถึงไม่ใช้พรม จนได้มาพบกับเสื่อเข้าให้ ซึ่งความคิดนั้นได้กลายมาเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ PDM Brand นำเสื่อแทนพรมมาดีไซน์ให้มีภาพลักษณ์ทันสมัยต่างจากเสื่อทั่วไปอย่างสิ้นเชิง

“จากจุดเริ่มต้นในการทำเฟอร์นิเจอร์ขายและส่งออก ซึ่งเราไม่ได้โปรโมทมาก เพราะเรามีงานอื่นเยอะมากอยู่แล้ว แต่คุณซินิเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องพรมที่ฟินแลนด์ มาเมืองไทยเขาก็ถามว่าทำไมบ้าน You ไม่ค่อยมีใครใช้พรมเท่าไหร่ ผมก็บอกว่าคนไทยไม่มีใครใช้พรมเพราะว่ามันร้อน ไม่นิยมใช้พรมเนื่องจากดูแลรักษาความสะอาดยาก ส่วนใหญ่จะเห็นว่ามีใช้เฉพาะบ้านที่มีคนดูแลความสะอาดเท่านั้น จนวันหนึ่งผมพาไปทอดกฐินที่วัดที่โคราช เขาเห็นเสื่อปูเต็มวัดแล้วบอกว่านี่ไงพรม จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่มาทำเสื่อแทนพรม มีคุณซินิเป็นผู้ออกแบบลายกราฟิก ส่วนผมก็มาดูในเรื่องคุณภาพในการผลิตว่าจะทำอย่างไรให้เสื่อมีการทอที่ได้คุณภาพมากขึ้น ไม่แตกหักง่ายเหมือนเสื่อทั่วไป”

ตลอดระยะเวลาเพียง 1 ปี เสื่อลายกราฟิกของ PDM Brand ได้การตอบรับเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลด้านงานดีไซน์โดดเด่นจากทั้งในและต่างประเทศรวมกว่า 9 รางวัล รวมถึงมีผู้นิยมหันมาใช้เสื่อของเขามากขึ้น “ในตอนแรกคิดว่าจะผลิตมาเพื่อขายคนไทย แต่มีอีกหลายประเทศที่ให้ความสนใจ เช่น สิงคโปร์ และฝรั่งเศส เป็นต้น เร็วๆ นี้น่าจะมีแบรนด์อื่นๆ ที่คิดทำในรูปแบบคล้ายๆ กัน เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายได้และน่าจะได้รับความนิยม ส่วนแบรนด์ของผมก็ยังคงมีการพัฒนาชิ้นงานอย่างต่อเนื่องและคงพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ เช่นกัน”