SIMPLE BUT COZY
เรียบง่ายแต่อบอุ่น
Text: นวภัทร ดัสดุลย์
Photo: ฉัตรชัย เจริญพุฒ
จากคอลัมน์ LIVING SPACE, Daybeds 163
ผู้บริหารหนุ่มแห่ง บริษัท ลัคกี้สตาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด คุณแทน-ธนัท ธนะนิวิฐ ถือโอกาสปรับปรุงเรือนหอครั้งใหญ่ ภายหลังครอบครัวยกบ้านหลังนี้ให้เป็นของขวัญวันแต่งงานกับ คุณลี่-ธัญญา ศรีพัฒนาสกุล โดยบุตรชายของเจ้าของโครงการหมู่บ้านในเครือ บริษัท ธีรินทร์กรุ๊ป จำกัด และบริษัท ธีรินทร์พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด ได้สถาปนิกมากความสามารถ คุณดีจริง จิตตนูนท์ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท N7A Architects มารับหน้าที่เนรมิตบ้านในฝันให้กลายมาเป็นความจริงอย่างที่เห็นในขณะนี้
ก่อนได้รับการปรับปรุงใหม่ บ้านหลังนี้เดิมเคยเป็นบ้านตัวอย่างของโครงการหมู่บ้านธีรินทร์ ราชพฤกษ์ มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 300 ตารางเมตร โจทย์ของการรีโนเวทบ้านหลังนี้ของคุณดีจริง คือทำอย่างไรให้บ้านดูไม่อึดอัด จึงมีการทุบผนังเดิมทิ้งเกือบทั้งหมดเพื่อเชื่อมให้พื้นที่ทั้งภายในและภายนอกให้มีความต่อเนื่องถึงกันทั้งหมด ชั้นล่างรื้อถอนบันไดคอนกรีตเดิมตรงโถงทางเข้า แล้วเปลี่ยนมาติดตั้งบันไดเหล็กแทนเพื่อเปิดพื้นที่ดับเบิ้ลสเปซ เนื่องจากตำแหน่งบันไดตั้งอยู่กลางบ้าน จึงให้มุมใกล้เคียงอย่างห้องนั่งเล่น และมุมครัวได้รับประโยชน์อย่างสูงสุด อีกทั้งช่วยเพิ่มความโปร่งตาให้กับโถงทางเข้าตั้งแต่แรกพบ
ส่วนผนังที่ทุบทิ้งเปลี่ยนมาติดตั้งระบบประตูบานเลื่อนกระจก สามารถเลื่อนเปิดเพื่อรับความเย็นจากภายนอกโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศ หรือเมื่อเลื่อนผ้าม่านออกปล่อยแสงธรรมชาติจากภายนอกลอดผ่านเข้ามาภายใน ช่วยให้บ้านสว่างโดยไม่ต้องพึ่งพาแสงไฟในเวลากลางวัน และยังทำให้บ้านดูไม่อึดอัดอย่างที่ตั้งใจ นอกจากนี้ยังปูพื้นและเปลี่ยนฝ้าใหม่ทั้งหมด วัสดุตกแต่งที่ใช้เน้นความเป็นธรรมชาติในโทนขาวและเทา อาทิ ผนังหินอ่อน ไม้ไวท์โอ๊ค ท็อปครัวหินสังเคราะห์ ให้ความรู้สึกหรูหรา เรียบเท่ในลุคโมเดิร์น ส่วนพื้นที่ชั้น 2 เน้นความอบอุ่น อยู่สบาย โดยใช้ไม้เป็นวัสดุหลักทั้งพื้นและผนัง ซึ่งหลังการปรับปรุงแล้วเสร็จ เจ้าตัวก็แอบปลาบปลื้ม แถมบอกว่าเป็นบ้านที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้ดีในทุกฟังก์ชัน
“ดีครับ เป็นบ้านในฝัน” คุณแทนเริ่มเล่า “ที่นี่เป็นบ้านของโครงการหมู่บ้านเลยครับ เป็นบ้านที่สร้างมานานแล้ว ข้างนอกเปลี่ยนหมดเลย บ้านหลังนี้เราเก็บเอาไว้ไม่ได้ขาย พอแต่งงานที่บ้านเลยยกหลังนี้ให้ แล้วรีโนเวท ปกติชอบบ้านที่ด้านนอกกับด้านในมันเชื่อมกันได้ ชอบความโปร่ง เพราะว่าพื้นที่มันไม่ได้ใหญ่มาก บ้านนี้ผมใช้ทุกมุมเลยนะ เป็นบ้านที่ไม่ค่อยมีส่วนไหนที่ไม่ได้ใช้ อยู่ในยิมก็วิ่งเกือบทุกวัน ห้องทำงานก็ใช้ตลอด ไม่มีฟังก์ชันไหนที่รู้สึกว่าเกินหรือไม่ได้ใช้ อยู่กันสองคน ที่ขนาดนี้ก็กำลังดีนะผมว่า”
ในการเลือก N7A เข้ามาเป็นบริษัทออกแบบ นั่นหมายความว่าเจ้าของบ้านจะต้องมีรสนิยมการตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นเหมือนๆ กัน เพราะคุณดีจริงกระซิบพร้อมเสียงหัวเราะว่า “เรามีบ้านสไตล์เดียวให้เลือกครับ คือ โมเดิร์น”
“ผมไม่ได้คุยเรื่องดีเทล คุยแค่คอนเซ็ปต์คร่าวๆ ว่าผมชอบแบบไหน เป็นคนแบบไหน ไลฟ์สไตล์แบบไหน คุณดิ่ง (ดีจริง) จัดการหมดเลย” คุณแทนเล่าต่อ “ผมเลือกคุณดิ่งเพราะเคยดูผลงานมาแล้ว และก็มีเพื่อนแนะนำชื่อคุณดิ่งมาเลย คือเราไว้ใจเขาในระดับหนึ่ง เราก็เลยไม่คิดว่าจะต้องมา Input เยอะ”
บ้านใดที่เจ้าของบ้านเปิดโอกาสให้ผู้ออกแบบได้ทำงานอย่างอิสระ ภายใต้กรอบที่ตกลงโดยไม่มีการล่วงล้ำหรือยอมพบกันคนละครึ่งทางภายใต้รสนิยมของกันและกันได้ นอกจากจะทำให้ต่างฝ่ายต่างมีความสุข วินวินกันทั้งสองฝ่าย อีกนัยหนึ่งเสมือนการได้เพื่อนใหม่ที่เป็นมากกว่าแค่ผู้จ้างวานที่พบ จบแล้วก็จาก หาได้ประทับใจซึ่งกันและกันไม่แต่อย่างใด ซึ่งเรา Daybedsเห็นรอยยิ้ม ได้ยินเสียงหัวเราะในความสนิทสนมกันระหว่างคู่สามีภรรยาเจ้าของบ้านกับสถาปนิก ตลอดระยะเวลาที่พวกเขาพาเราเดินชมมุมต่างๆ ภายในบ้านตัวอย่างที่กลายร่างมาเป็นเรือนหออันเรียบหรู น่าอยู่ โปร่งโล่งและเย็นสบาย
“เราเจอกันบ่อยจนคุ้นเคยกัน” คุณแทนเล่าทิ้งท้าย” มีครั้งหนึ่งแกล้งคุณดิ่ง เอารูปบ้านเชยๆ สไตล์หลุยส์ ออกสีชมพู-เขียว แล้วไปที่ออฟฟิศเขา เพราะจะไปคุยเรื่องห้องนอน แล้วบอกว่าชอบแบบนี้ คุณดิ่งทำหน้าอึ้งไปพักหนึ่ง แล้วบอกว่าจริงเหรอครับ (หัวเราะ)”
“บ้านนี้ผมใช้ทุกมุมเลยนะ เป็นบ้านที่ไม่ค่อยมีส่วนไหนที่ไม่ได้ใช้ อยู่ในยิมก็วิ่งเกือบทุกวัน ห้องทำงานก็ใช้ตลอด ไม่มีฟังก์ชันไหนที่รู้สึกว่าเกินหรือไม่ได้ใช้”
ธนัท ธนะนิวิฐ
โถงทางเข้าบ้าน (Foyer) มีการทุบผนังเพื่อเปิดพื้นที่ดับเบิ้ลสเปซ และรื้อถอนบันไดคอนกรีตเดิม เปลี่ยนเป็นบันไดเหล็กใหม่ มีการประดับโคมไฟไอเวอร์ไลท์แบบคัสตอมไมส์เป็นจุดนำสายตา ส่วนพื้นที่ใต้โถงบันไดบิลท์อินตู้เก็บรองเท้าและงานระบบเป็นผนังอาคารปิดผิวด้วยไม้วีเนียร์สีขาว
พื้นที่ชั้นล่างมีการทุบผนังเดิมออกเกือบทั้งหมด เน้น Visual Flow หรือเน้นความโปร่งตา ดีไซน์โดยพยายามให้ทุกส่วนในบ้านเชื่อมถึงกัน ต่อเนื่องจากห้องนั่งเล่น โถงทางเข้าบ้าน ทะลุไปถึงห้อง Home Theatre
บริเวณเคาน์เตอร์ครัวแพนทรี มีการรื้อเคาน์เตอร์ครัวเดิมออก แล้วเปลี่ยนมาใช้ท็อปหินสังเคราะห์ คุมโทนให้บ้านเป็นสีเทาในลุคโมเดิร์น แล้วเบรกความดิบด้วยฝ้าเพดานและผนังไม้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าของบ้านชื่นชอบ
ผนังบิลท์อินแอบซ่อนลูกเล่นในการปิดเปิดห้อง Home Theatre ด้วยระบบประตูบานเลื่อนไว้ด้านหลัง เพื่อความเป็นส่วนตัวในระหว่างการชมภาพยนตร์ พร้อมกันนี้ยังนำลวดดัดที่ใช้ในงานวันแต่งงานของคู่รักเจ้าของบ้านมาประดับเป็นมุมแห่งความทรงจำแสนพิเศษ
ห้อง Home Theatre ยังคงเน้นโทนขรึมเท่คงสไตล์เดียวกับการตกแต่งโดยรวม
จากบันไดชั้นล่างมุ่งตรงขึ้นไปสู่ห้องทำงานบนชั้น 2 ห้องนอนมาสเตอร์ และห้องนอนเล็กอีกสองห้องที่ตกแต่งโดยเน้นความอบอุ่นจากการปูพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ริ่ง และกรุผนังด้วยไม้เกือบทุกส่วน
ภายในห้องนอนมาสเตอร์ ให้ความรู้สึกอบอุ่น น่าพักผ่อน มีช่องทางเดิน (corridor) คอยทำหน้าที่แยกส่วนพื้นที่พักผ่อนและห้องอาบน้ำออกห่างจากกันโดยไม่รู้สึกว่าเป็นห้องเดียวกัน ทั้งที่จริงแล้วทั้งสองฟังก์ชันอยู่ติดกันในระยะประชิด โดยภายในห้องอาบน้ำในห้องนอนมาสเตอร์ มีการแยกส่วนอาบน้ำ อ่างอาบน้ำ และห้องแต่งตัวแบบ Walk in closet อย่างเป็นสัดส่วน
