NAPLAB WANGLANG

Naplab Wanglang พื้นที่ทำงานแบบ Co Working Space ในฝันของคนทำงานรุ่นใหม่ ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานได้มีความสุขกับการทำงานแบบ Worklife Balance ที่สมบูรณ์แบบ จะทำงาน จะงีบ หรือจะเล่นอย่างสนุกสนาน ก็สามารถทำได้ทั้งหมดใน Coworking Space เปี่ยมสุขแห่งนี้

Co Napping Space แห่งความสุขของคนทำงาน

Text: Boonake A.
Photo: ภคนันท์ เถาทอง

ในยุคที่เทรนด์รูปแบบการทำงานเปลี่ยนไป เอื้อให้ทุกคนสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องอยู่ประจำเพียงแต่ในออฟฟิศ พื้นที่ทำงานรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Co Working Space จึงเพิ่มจำนวนขึ้นตามความต้องการใช้งานอย่างแพร่หลาย

แม้จะมีอยู่เป็นจำนวนมาก รูปแบบการใช้งานของพื้นที่ทำงานกลางหลายแห่งก็ยังมีข้อจำกัดบางอย่างที่อาจทำให้ผู้ใช้งานไม่ค่อยได้รู้สึกถึงการหนีห่างจากกรอบของออฟฟิศรูปแบบเดิมๆ มากเท่าใดนัก

ข้อจำกัดที่ว่าก็คือห้ามหลับ ห้ามส่งเสียง ห้ามเอาขนมของกินมากิน หรือไม่มีเครื่องเล่นสนุกๆ ให้ได้ผ่อนคลาย สร้างความสบายให้สมองเพื่อรอรับไอเดียสร้างสรรค์ใหม่ๆ ที่มักจะปิ๊งแวบออกมาเสมอ ในช่วงเวลาที่สมองได้รับการพักผ่อน

ในข้อจำกัดที่ว่ามาทั้งหมดเป็นแรงบันดาลใจให้คุณป๋อง – อาทิตย์ เสมอกาย และกลุ่มเพื่อนสถาปัตย์ จุฬาฯ ของเขามีความคิดอยากจะสร้าง Co Working Space แนวคิดใหม่เพื่อเปิดโอกาสให้คนทำงานได้แสวงหาความสุขจากความผ่อนคลายเล็กๆ น้อยๆ ในระหว่างการทำงานที่แสนคร่ำเคร่งบ้าง

จากความคิดและไอเดียสู่การนำมาสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นจริง จนได้ออกมาเป็น Co Working Space ในฝันของคุณป๋อง และเพื่อนๆ ที่ชื่อว่า “Naplab” ในซอยจุฬาฯ 6 ที่มีความโดดเด่นด้วยการออกแบบพื้นที่ภายในให้มีกิมมิคต่างๆ สำหรับสร้างบรรยากาศการทำงานที่แสนสนุก ผ่อนคลาย เป็นกันเอง และนอนหลับได้อย่างสบายใจ จนถึงขนาดที่ทีมผู้สร้างนึกสนุกอยากจะเรียกมันว่า CoNapping Space เสียด้วยซ้ำ

ด้วยลูกเล่นและกิมมิคซนๆ ที่น่าสนใจ เป็นตัวจุดกระแสให้คนทำงานหลากหลายอาชีพ รวมถึงนักศึกษาจุฬาฯ ได้ก้าวเข้ามาลองสัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่Naplab กันอย่างมากมายเป็นเวลากว่า 1 ปีในการให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

เมื่อมีกระแสตอบรับที่ดี คุณป๋องและผู้ร่วมก่อตั้งคนอื่นๆ จึงคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ควรจะนำประสบการณ์เฉพาะแบบที่Naplab สร้างขึ้นกระจายออกเป็นสาขาที่ 2 ให้คนในพื้นที่อื่นได้ลองสัมผัสกันบ้าง และพื้นที่คุณป๋องและทีมงานเลือกก็คือพื้นที่บนชั้น 4 ของอาคารท่าหวังหลัง ใกล้กันกับโรงพยาบาลศิริราช  เพื่อรองรับการเข้ามาใช้งานของแพทย์สาขาต่างๆ ในโรงพยาบาลศิริราช นักศึกษาธรรมศาสตร์ นักศึกษามหิดล นักศึกษาศิลปากร ที่ต้องการหา Co Working Space ดีๆ ซักที่เพื่อใช้ในการประชุมงาน อ่านหนังสือ หรือทำงานกลุ่ม ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ซึ่ง Naplabสาขา 2 ใหม่ถอดด้ามทุกกระเบียดนิ้วแห่งนี้เพิ่งเปิดบริการอย่างเป็นทางการมาไม่ถึงครึ่งปี เรียกว่าใหม่สดปราศจากความช้ำ ควรค่าอย่างยิ่งที่คอลัมน์ Creative Space นำมารีวิวให้คุณได้ติดตามกัน

หลังจากที่ประตูลิฟต์เปิดออกเราก็มาถึงส่วนเคาท์เตอร์บริการหลักของNaplab วังหลัง ที่มีคุณนัท-ปิยวัฒน์ ปาณีนิจ ผู้จัดการ Naplab สาขาวังหลัง รออยู่เพื่อให้ข้อมูลพร้อมทั้งพาเราทัวร์ชมทุกส่วนของพื้นที่ภายใน

สิ่งแรกเลยที่เราอยากรู้จากคุณนัทก็คือที่มาที่ไปของรูปแบบแนวทางการตกแต่ง การสร้างมู๊ดแอนด์โทนภายในทั้งหมด ซึ่งคุณนัทได้เล่าเรื่องนี้ให้เราฟังว่า ก่อนลงมือออกแบบ คุณป๋องและเพื่อนๆ ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นแบบโฟกัสกรุ๊ปกับกลุ่มหมอและนักศึกษา เพื่อค้นหาไดเรคชั่นหลักในการออกแบบตกแต่ง

“ผลที่ได้จากกลุ่มโฟกัสกรุ๊ปก็คือเขาอยากได้มู๊ดแอนด์โทนการตกแต่งให้มีความอบอุ่น ฝันๆ  แฝงด้วยอารมณ์ความหวานจากสีพาสเทลอ่อนๆ มีความเป็นวินเทจที่ซับซ้อนหน่อยๆ  คือถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คือมีลักษณะคล้ายอาร์ตไดเรคชั่นในภาพหนังของผู้กำกับชื่อดังอย่างWes Anderson นั่นล่ะครับ”

พอคุณนัทพูดถึงสไตล์แบบWes Anderson ภาพในฉากสำคัญที่เต็มไปด้วยสีพาสเทลอวลด้วยแสงอบอุ่นสีเหลืองนวลของThe Grand Hotel Budapest ก็ชัดเจนขึ้นมาทันที จนผมสามารถเก็ตได้ทันทีในความเหมือนที่ถูกทาบทับกันอย่างแนบสนิทลงตัวกับการตกแต่งภายในของNaplab สาขานี้

แล้วด้วยความที่สาขานี้ตั้งอยู่บนที่โบราณย่านวังหลัง ทีมออกแบบจึงได้มีสอดแทรกสไตล์วินเทจเข้าไปด้วยในองค์ประกอบของรายละเอียดเล็กๆ ทั้งราวบันได โคมไฟที่ถูกทำจากทองเหลือง เฟอร์นิเจอร์ไม้รูปทรงเรียบง่าย หรือแม้แต่กระเบื้องสีเขียวตุ่นๆ ที่ถูกนำมาประดับผนังล้วนขับเน้นความวินเทจออกมาได้อย่างเด่นชัด

หลังจากได้ฟังเรื่องราวการตกแต่งจากคุณนัทมากันพอประมาณ ก็ถึงเวลาที่เขาจะพาไปชมภายในพื้นที่ต่างๆ ภายใน ซึ่งคุณนัทได้บอกกับเราว่าการแบ่งโซนที่เกิดขึ้น เป็นการนำปัญหาจากสาขาแรกมาปรับใช้เพื่อการออกแบบพื้นที่ภายในทั้งหมดโดยเฉพาะ

“ด้วยความที่สาขาแรกพื้นที่มันเชื่อมถึงกันหมดเลย เพราะฉะนั้นเรื่องของเสียงมันจึงกระจายไปทุกโซนเลย คนที่เข้ามาใช้พื้นที่มีกิจกรรมหลากหลายคนที่อยากมาสนุก อยากมาเสียงดัง หรือว่ามีคนที่อยากมาอ่านหนังสือ ที่นี่เราก็เลยแบ่งพื้นที่กันให้ชัดเจน เป็นโซนเงียบ โซนสันทนาการ ให้เป็นอิสระจากกัน เพื่อไม่ให้เกิดการละเมิดสิทธิซึ่งกันและกัน”

เริ่มต้นกันที่โซนคาเฟ่ในโซนนี้สามารถนำอาหารมาทานได้ พูดคุยกันได้บ้างเล็กน้อย แต่ก็ยังสามารถทำงาน อ่านหนังสือบนโต๊ะที่จัดไว้ได้เช่นกัน หากใครต้องการเป็นส่วนตัว ก็สามารถเข้าไปนั่งในคอกที่จัดไว้ให้ได้ ซึ่งคอกที่ว่านี้มีหน้าต่างขั้นกางระหว่างกัน หากมากันเป็นคู่ก็สามาถเปิดหน้าต่างออกเปลี่ยนเป็นโต๊ะที่ที่สามารถนั่งหันหน้าหากันได้

ถัดมาไม่ไกลในชั้นเดียวกันเป็นพื้นที่ของโซนFocus Area ซึ่งในโซนนี้เป็นพื้นที่ในการใช้สมาธิในการอ่านหนังสือหรือทำงานโดยเฉพาะ ดังนั้นห้ามใช้เสียง ในส่วนของโต๊ะอ่านหนังสือถูกออกแบบใหม่ด้วยแนวคิดแบบยืดหยุ่นเพื่อรองรับการใช้งานในแบบเดี่ยวหรือมากันเป็นกลุ่ม

อธิบายง่ายๆ ก็คือบนโต๊ะจะถูกแบ่งพื้นที่ด้วยแผงไม้คั่นกลาง และแผงไม้นี้สามารถพับเก็บได้หากมากันเป็นคู่ ซึ่งการดีไซน์ฟังก์ชั่นนี้ช่วยอย่างมากในการสร้างความรู้สึกเป็นส่วนตัวให้กับผู้ใช้งานทุกคน นอกจากนั้นในโซน Focus Area ยังมีห้องประชุมส่วนตัวขนาดเล็กและใหญ่ไว้ให้ใช้ตามความต้องการอีกด้วย

ก้าวลงจากบันไดวนมาสู่โถงกลางที่เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของNapLab สาขานี้ เราเรียกโซนนี้ว่า Nap Court อันเป็นพื้นที่สำหรับใช้ผ่อนคลายกันแบบจริงจัง เพราะเป็นส่วนที่มีการติดตั้งช่องสำหรับนอนงีบอันเป็นซิกเนเจอร์สำคัญของ Co Working Space แห่งนี้ ที่เราเรียกกันว่า Nap Caveนั่นเอง

ใน Nap Caveสามารถใช้นอนผ่อนคลายได้แบบจริงจัง หรือจะใช้นอนทอดอารมณ์ อ่านหนังสือ พูดคุย มองวิว 180 องศาแม่น้ำเจ้าพระยา ก็สามารถทำได้ แถมยังการติดตั้งโต๊ะพับติดผนังสำหรับเปลี่ยนบรรยากาศในการทำงานให้ชิลล์ หรือหากยังชิลล์กันไม่สุด ก็สามารถมานอนเกลือกกลิ้งลงไปกับบีนแบ๊กที่ถูกวางไว้บนพรมหญ้าเทียมกลางคอร์ท ก็ไม่ผิดแต่ประการใด

หมดจากบริเวณหลักภายใน คุณนัทพาเราก้าวออกจากประตูเพื่อเข้าสู่อีกโซนที่มีชื่อเก๋ๆ ว่า “เขตปลอดงานสราญรมย์” แค่ชื่อว่าชิลล์ ได้ไปเห็นภายในยิ่งชิลล์มากขึ้นอีกเป็นทวีคูณ เพราะที่เป็นส่วนที่ใช้สันทนาการอย่างแท้จริง มีทั้งโต๊ะพูล ตู้เกมอาเขตที่บรรจุเกมเรโทรชื่อดังไว้ครบทุกคอนโซล รวมถึงมีเครื่องเพลย์สเตชั่นให้เลือกเล่นได้อย่างเต็มที่

“ที่นี่ใช้เสียงเล่นสนุกกันได้เต็มที่ครับ เคยมีบางคนที่เขาเพิ่งซื้อแผ่นเกมมา แล้วเขารอที่จะกลับไปเล่นที่บ้านไม่ได้ เขารู้ว่าที่นี้มันมี Play 4 เขาก็เองแผ่นของเขามานั่งเล่นที่นี่เลยถึงบอกไงครับว่าลูกค้าที่มาใช้งานที่นี่มีหลากหลายจริงๆ”คุณนัทอธิบายให้เราฟัง

ในส่วนที่เหลือภายนอก Naplab วังหลังยังมีการเปิดพื้นที่เพิ่มเติมไว้สำหรับการเช่าเป็นออฟฟิศรายเดือนจำนวน 4 ห้อง สำหรับกลุ่มสตารท์อัพที่ต้องการเช่าออฟฟิศระดับมาตรฐานในราคาเบาๆ ที่สามารถจับต้องได้ ซึ่งขนาดก็ถูกแบ่งออกตามจำนวนคนที่มาเช่าไว้อย่างชัดเจน

นี่คือองค์ประกอบทั้งหมดของ Naplab วังหลัง ในส่วนสรุปผมถามคุณนัทถึงความุ่งหวังที่จะนำเสนออะไรให้กับคนที่มาใช้งานในพื้นที่แห่งนี้ เขาบอกกับเราว่าส่วนใหญ่คนจะเรียกที่นี่ว่า “เป็นที่ทำงานไม่ได้งาน” เพราะเขาเชื่อในความเป็นมนุษย์ที่ต้องการการพักผ่อนในยามที่เมื่อยล้าจากการงาน แต่เมื่อใดก็ตามทุกคนมีปราศจากความเหนื่อยล้าแล้ว เชื่อว่าต้องได้เนื้องานที่ดีออกมาบ้างไม่มากก็น้อยล่ะ

เอาเป็นว่าลองเข้ามาลองสัมผัสประสบการณ์กันดูด้วยตัวเองก็แล้วกันนะครับเหล่ามนุษย์งานทั้งหลาย ในส่วนของผมที่ใช้เวลาอยู่ที่ที่นี่ไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมงมาแล้ว ขอการันตีเลยมันชิลล์จริงๆ ทั้งยังเป็นประสบกาณ์ในการทำงานใน Co working Space ที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งเท่าที่ผมได้เคยสัมผัสมาจริงๆ

Contact:ชั้น 4 อาหารวังหลัง ติดริมน้ำท่าวังหลัง โทร : 095-251-9524

Leave A Comment