LITTLE BY LITTLE
ต่อเติมทีละเล็กทีละน้อย
กับสองมุมใหม่ภายใต้บรรยากาศคุ้นเคยในบ้านสวนลิตเติ้ลทรี
Text: นวภัทร ดัสดุลย์
Photo: ฉัตรชัย เจริญพุฒ, นวภัทร ดัสดุลย์
จากคอลัมน์ GREEN SPACE, Daybeds 167 สิงหาคม 59
อีกครั้งที่ Daybeds กลับมาเยือน ‘ลิตเติ้ลทรี’ (Little Tree) บ้านสวนในฝันริมแม่น้ำท่าจีนที่ครอบครัวริ้วบำรุงได้ผสานความรักในต้นไม้กับโมเดลธุรกิจที่น่าเอาเยี่ยงอย่างรวมเข้าด้วยกันได้กลมเกลียว พร้อมเยี่ยมชม ‘Green Room’ และ ‘Emily’s tearoom’ สองมุมใหม่ที่บ่งบอกถึงธุรกิจและต้นไม้นานาพันธุ์ซึ่งเติบโตอย่างควบคู่กันไป แน่นอนว่าถ้านำไปเปรียบกับภาพยนตร์สักเรื่องหนึ่งที่พวกเขาลงมือเขียนบทและกำกับการแสดงเองแล้วนั้น ต้นไม้ยังคงรับบทนักแสดงนำคอยดำเนินเรื่องราวโดยมีอาหาร ขนม และเครื่องดื่ม ตลอดจนงานดีไซน์ และการบริการเช่าสถานที่จัดงานเป็นนักแสดงสมทบที่ช่วยเติมเต็มความเข้มข้นของภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี
มุมมหาชนสำหรับถ่ายรูปในอาคารเรือนกระจกหลังแรก
ที่แขกไปใครมาต้องเช็คอินที่จุดนี้ เราเองก็เช่นกัน
บนคำถามที่ว่าต้นไม้มีส่วนช่วยบำบัดจิตใจคนได้จริงหรือไม่ “ต้นไม้ช่วยให้เราผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเหนื่อย ท้อ หรือเครียด ต้นไม้ทำให้เราสงบ” คุณวิทย์-ศิริวิทย์ ริ้วบำรุง นักจัดสวนมือทองให้คำตอบกับเราแบบนั้น เพราะเขาเชื่อมั่นเสมอว่าต้นไม้ช่วยทำให้จิตใจสงบนิ่งยิ่งขึ้นได้จริง แม้ด้วยเหตุผลส่วนหนึ่งจะเกิดจากความรักความผูกพันที่เขามีต่อต้นไม้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็ตาม หากแต่เรื่องแบบนี้ใครไม่ลองมาพิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วจะพบคำตอบที่ว่านั้นได้อย่างไรจริงไหม
เนื่องจากว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ภายในอาณาบริเวณบ้านสวนลิตเติ้ลทรีเต็มไปด้วยแนวต้นไม้น้อยใหญ่และมีลานโล่งกว้างที่ค่อนข้างจำกัด คุณวิทย์ให้เหตุผลถึงการต่อขยายอาคารเท่าที่จำเป็นต่อไปอย่างน่าสนใจอีกว่า “กลัวขยายไปจนมีความรู้สึกเหมือนร้านอาหาร ถึงไม่อยากขยายเข้ามาในพื้นที่พักอาศัย” เขาจึงใช้วิธีการปรับโครงสร้างเก่าที่มีแทนการสร้างอาคารขึ้นใหม่ คงเสน่ห์ไว้เหมือนอย่างเช่นห้องเก็บของเดิมที่มาปรับปรุงเป็นอาคารเรือนกระจกหลังแรก กับ ‘Green Room’ อาคารเรือนกระจกหลังสองที่ใช้ห้องเรียนเก่ามาปรับรูปด้านใหม่เช่นกัน ในขณะที่อาคารเรือนกระจกหลังที่สามอย่าง ‘Emily’s tearoom’ นั้นเป็นการต่อเติมพื้นที่ใหม่จากด้านหลังบ้านโดยที่ไม่ได้ตัดต้นไม้แม้สักกิ่ง เท่ากับว่าสองมุมใหม่ภายใต้บรรยากาศคุ้นเคยทั้ง Green Room และ Emily’s tearoom ยังคงซุกซ่อนตัวเองอยู่ภายใต้อาณัติของนานาต้นไม้น้อยใหญ่เหมือนเช่นอาคารเก่าที่แล้วมา
เริ่มต้นจาก Green Room ซึ่งเป็นอาคารเรือนกระจกหลังที่สองในวันธรรมดาจะไม่เปิดให้บริการในส่วนของคาเฟ่ แต่จะเปิดเฉพาะในวันเสาร์และอาทิตย์เพื่อรองรับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นในแต่ละสัปดาห์ โดยพื้นที่ตรงนี้ในวันธรรมดานั้นจะถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับการถ่ายพรีเว็ดดิ้ง หรือสำหรับงานจัดเลี้ยงต่างๆ ในโอกาสพิเศษเท่านั้น ลักษณะของอาคารเรือนกระจกหลังนี้เสมือนอาคารสองหลังที่เชื่อมต่อถึงกันเป็นอาคารเดียวเพื่อการใช้งานที่สะดวก เน้นความโปร่งโล่งด้วยการก่อผนังอาคารและมุงหลังคาโปร่งแสง เพื่อที่จะสามารถปลูกต้นไม้ไว้ภายในได้ พร้อมประดับประดาด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้เก่า โต๊ะ และเก้าอี้ กอปรกับพันธุ์ไม้ต่างๆ เข้ามุมอย่างเป็นสัดส่วน บริเวณช่องว่างตรงกลางอาคารสร้างเป็นห้องล้างมือ และฝั่งขวาสุดของอาคารนั้นยังมีห้องเวิร์กช็อปของครูปิ๋ม คุณศิริลักษณ์ ริ้วบำรุง ตั้งอยู่ติดริมคูน้ำ ในขณะที่อีกหนึ่งส่วนต่อขยายใหม่อย่าง Emily’s tearoom คืออาคารเรือนกระจกที่ต่อเติมยื่นออกมาจากทางด้านหลังบ้านของครอบครัวริ้วบำรุง เน้นความโปร่งโล่งด้วยการก่อผนังอาคารและมุงหลังคาโปร่งแสงเช่นกัน เป็นพื้นที่จัดจำหน่ายงานดีไซน์ลายสวยแบบไม่ซ้ำ อาทิ ถ้วยชา จาน และชามเซรามิค ตลอดจนเขียงไม้ เป็นต้น สำหรับใครที่อยากหยิบจับกลับไปเป็นของฝากให้คนพิเศษ หรือใช้ตกแต่งบ้านในโอกาสต่อไป
การเลือกเก็บรักษาแนวต้นไม้เดิมเอาไว้ให้เป็นส่วนหนึ่งในอาคารแทนการตัดลำต้นทิ้ง ช่วยสร้างคาแรกเตอร์ให้แก่อาคารเรือนกระจกหลังใหม่ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถเป็นจุดสำหรับแขวนหรือประดับต้นไม้เล็กๆ แซมเข้าไปได้อีกด้วย
มุมใหม่ใช่ว่าจำเป็นต้องตกแต่งให้ดูใหม่สมชื่อ การนำตู้เอกสารเก่า การก่อผนังอิฐโชว์แนวและทาด้วยสีขาวทับแบบไม่เรียบร้อยนัก ตลอดจนเน้นการจัดวางต้นไม้ที่เหมาะสมทั้งรูปฟอร์มและสภาพแวดล้อมก็ช่วยให้มุมนั่งเล่นหรือห้องอาหารโปรดของคุณมีเสน่ห์ได้เช่นกัน
การจัดวางต้นไม้คละขนาดและรูปฟอร์ม กอปรกับการประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์เก่า ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้มุมล้างมือในพื้นที่กะทัดรัดด้วยได้เป็นอย่างดี
การจัดวางต้นไม้คละขนาดและรูปฟอร์ม กอปรกับการประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์เก่า ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้มุมล้างมือในพื้นที่กะทัดรัดด้วยได้เป็นอย่างดี
ห้องเวิร์กช็อปของครูปิ๋มน่ารักลงตัวด้วยเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น และการประดับประดากระถางต้นไม้ทั้งแบบตั้งพื้น ตั้งโต๊ะ และแขวนเพดาน
‘Emily’s tearoom’ เรือนกระจกใต้ต้นสาเกต้นใหญ่นั้นเป็นการต่อเติมพื้นที่ใหม่จากด้านหลังบ้านโดยที่ไม่ได้กิ่งไม้แม้สักกิ่ง
ด้วยการจัดเรียงถ้วยชาและจานชามเซรามิคบนโต๊ะกลางเป็นดิสเพลย์อย่างเป็นระเบียบ สร้างจุดเด่นให้กับ Emily’s tearoom ได้ตั้งแต่แรกพบ
ถ้วยชา และจานชามเซรามิค ตลอดจนเขียงไม้ มีให้เลือกซื้อเป็นของฝากให้คนพิเศษ หรือใช้ตกแต่งบ้านในโอกาสต่อไป
นับว่า Green Room และ Emily’s tearoom เป็นส่วนต่อขยายที่ตัวอาคารนั้นไม่ได้ถูกก่อสร้างขึ้นเพื่อมาเบียดเบียนต้นไม้ แต่สร้างขึ้นเพื่ออาศัยเป็นส่วนหนึ่งภายใต้ร่มเงา คงไว้ซึ่งบรรยากาศและความร่มรื่น รวมถึงไม่กระทบกับความเป็นส่วนตัวของคนในครอบครัวจนมากเกินพอดี หรืออย่างน้อยๆ ก็เป็นบทพิสูจน์ให้เห็นว่า ในบางครั้งต้นไม้ก็สามารถบำบัดจิตใจคนเราให้เกิดความสงบได้จริง เพราะ Daybeds สัมผัสได้ถึงความรู้สึกนั้นถึงได้เขียนยืนยันลงเป็นลายลักษณ์อักษรในเว็บไซต์นี้
“ต้นไม้ช่วยบำบัดจิตใจคนจริงๆ นะ ช่วยได้เยอะเลย
เวลาเราจะเริ่มต้นอะไรใหม่ เวลาเรานิ่ง มีสมาธิ เราสงบอยู่กับมันสักพัก
มันก็ทำให้เราคิดอะไรได้เยอะขึ้น ทำงานได้เยอะขึ้น”
ศิริวิทย์ ริ้วบำรุง