LESS SPACE MORE FUNCTION
Text: พีรยา เชื้อสุนทรโสภณ
Photo: เปี่ยมพล จันทร์เปี่ยม, พุทธิพงศ์ ศรีสุวรรณ
Interior Design: Hence Interior Design
จากคอลัมน์ LIVING SPACE, DAYBEDS 164
แม้การใช้ชีวิตท่ามกลางเมืองใหญ่ที่เป็นดั่งศูนย์รวมความบันเทิงไว้อย่างรอบด้านจะดูน่าตื่นตาตื่นใจเพียงใด แต่ทว่าการจะหาความสงบสุขในที่แบบนี้คงเรียกได้ว่าหาได้น้อยเต็มที แต่ถึงอย่างนั้นบนถนนสายเล็กๆ ย่านชิดลมก็ยังคงมีแหล่งพักพิงอันสงบสุข เป็นบ้านที่มีเพียงแค่คนอาศัยเท่านั้นที่จะสัมผัสได้กับความสุขในพื้นที่ที่เป็นของเราได้อย่างแท้จริง
“ก่อนหน้านี้เราเคยอยู่คอนโดฯมาก่อน แต่เราก็รู้สึกว่ามันยังไม่ใช่ เหมือนเขาทำมาแค่สวยเวลาไม่มีของ พอเข้าไปอยู่จริงๆ แล้วก็อยู่ไม่ได้” นพ.มาร์วิน เทพโสพรรณ วิสัญญีแพทย์ที่พ่วงตำแหน่งอาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกเล่าเรื่องราวและถ่ายทอดมุมมองในการมีส่วนร่วมกับการออกแบบห้องบนคอนโดมิเนียมแห่งนี้ “ตึกนี้เมื่อก่อนเราขับรถผ่านไปทำงาน เราเห็นว่าตึกนี้สวยมาก น่าจะสวยสุดในประเทศแล้วมั้ง พอขับผ่านแต่ละครั้งแล้วเราจะรู้สึกว่าตึกสวยจังเลย เราชอบมาตั้งแต่เด็ก พอโตมาเรามองหาคอนโดฯ มาเรื่อยๆ จนขับผ่านมาแถวนี้เลยลองตัดสินใจถามเขาดู ปรากฏว่ามีห้องหนึ่งพอดีซึ่งก็คือห้องนี้ ก็เลยมาดูแล้วตัดสินใจซื้อ”
คุณมาร์วินกับมุมพักผ่อนสบายๆบนโซฟาแสนเก๋
ด้วยสภาพที่เป็นคอนโดมิเนียมเก่าที่มีอายุกว่า 20 ปี สภาพของห้องจึงเป็นสไตล์แบบเก่าๆ ที่มีเพดานไม่สูงนัก มีขนาด 2 ห้องนอน 1 ห้องครัว 1 ห้องนั่งเล่น และ 3 ห้องน้ำ ที่ทำให้พื้นที่ทั้งหมดดูคับแคบลงถนัดตา คุณมาร์วินจึงตัดสินใจให้ทาง Hence Interior Design เป็นผู้เข้ามาดูแลการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยมีการทุบพื้นที่ให้มีเพียง 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น และ 2 ห้องน้ำแทน คุณมาร์วินเล่าว่า “เราไม่ได้มีความรู้ทางด้านออกแบบ แต่เป็นคนชอบการตกแต่งบ้าน โดยดูจาก Pinterest หรือเว็บไซต์ต่างประเทศ แล้วเราก็ไปต่างประเทศบ่อย เคยไปประเทศอังกฤษบ่อยมากตอนเด็กๆ เราเลยรู้สึกว่าทำไมบ้านต่างประเทศมันสวยจังเลย ไม่ว่าจะไปอพาร์ทเม้นท์หรืออะไรจะสวยมาก แล้วฟังก์ชั่นมันก็ดี ตอนเด็กก็เลยฝันว่าถ้ามีบ้านก็ต้องมีบ้านที่สวยมากแบบบ้านสไตล์ลอนดอน”
ดังนั้นแล้วทางอินทีเรียดีไซเนอร์จึงออกแบบบ้านให้ตรงตามความต้องการของเจ้าของ โดยออกมาเป็นบ้านในสไตล์แบบคลาสสิกผสมผสานเข้ากับคอนเทมโพรารี ใส่องค์ประกอบของความทันสมัยสอดแทรกเพิ่มเข้ามาตามไลฟ์สไตล์ของผู้อาศัย รวมถึงการขยายและเพิ่มฟังก์ชั่นพื้นที่การใช้งานให้มีความเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น ภายใต้โจทย์คือต้องมีห้องน้ำสำหรับแขก ห้องน้ำส่วนตัว และต้องมีที่ซักผ้าแยกเป็นสัดส่วนกับห้องทำอาหาร รวมถึงต้องมีที่เก็บของ ทั้งกระเป๋าเดินทาง เอกสารและหนังสือต่างๆ ด้วย สำหรับฝ้าเพดานที่เจ้าของต้องการให้สูง ทางผู้ออกแบบจึงต้องเปิดเพดานให้สุด รวมทั้งต้องค่อยๆ ปรับและแก้ไขปัญหาอื่นๆ ไปเรื่อยๆ อย่างเรื่องระบบน้ำ เป็นต้น
“เราเป็นคนชอบเอ็นเตอร์เทนคน มีเพื่อนมาบ้านบ่อยมาก เลยตัดสินใจให้พื้นที่ส่วนเอ็นเตอร์เทนให้ใหญ่ดีกว่า และก็เป็นคนชอบทำอาหารด้วย เลยคุยกันว่าต้องมีที่ทำอาหารมากพอ” จากโถงทางเข้าบ้านก้าวเข้าสู่พื้นที่ขนาดใหญ่ที่รวมส่วนห้องครัว ห้องนั่งเล่น และห้องทำงานไว้รวมกันได้อย่างลงตัว โดยใช้เฟอร์นิเจอร์เป็นตัวขั้นและแบ่งส่วนพื้นที่ต่างๆ สำหรับส่วนห้องครัว ต้องมีพื้นที่สำหรับเก็บอุปกรณ์ต่างๆ และพื้นที่ในการหมุนตัวเพื่อความสะดวกเวลาทำอาหาร ส่วนพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่เต็มไปด้วยโซฟาหลายขนาดและหลายรูปแบบ กับของตกแต่งที่คุณมาร์วินเป็นคนเลือกซื้อด้วยตนเอง ที่ดูสว่างไสวและอบอุ่นด้วยแสงธรรมชาติที่ลอดผ่านหน้าต่างกระจกบานใหญ่ ซึ่งด้านนอกเป็นพื้นที่ระเบียงไว้นั่งเล่นในวันสบายๆ ส่วนทางด้านหลังห้องนั่งเล่นจัดเป็นมุมส่วนห้องทำงาน ซึ่งคุณมาร์วินอยากให้มีชั้นสำหรับจัดเก็บหนังสือสวยๆแบบห้องสมุดต่างประเทศ แต่ทางอินทีเรียร์แย้งว่าการเก็บหนังสือไว้บนชั้นให้สวยเป็นเรื่องที่ยาก ทั้งคู่จึงแก้ปัญหาด้วยการทำพื้นที่ส่วนบานเลื่อนหน้าทางเข้าห้องนอนเป็นพื้นที่สำหรับเก็บของต่างๆ แทน
“ตรงบานเกล็ดนั้นเขาทำเป็นตู้เก็บของให้เราโยนของเขาไป เราเลยดีใจมากเพราะมันทำให้บ้านดูเป็นระเบียบขึ้น ดูสะอาดมากขึ้น ซึ่งตู้เก็บของใหญ่มาก เพื่อนยังเคยบอกว่าถ้าตีตารางเมตรนี่แพงมากนะ เพราะตู้ใหญ่กว่าห้องน้ำอีก (หัวเราะ)”
เมื่อเปิดประตูบานเล็กเข้าสู่พื้นที่ส่วนห้องนอนและห้องน้ำ ห้องนอนโทนสีมืดเพื่อการสร้างบรรยากาศสำหรับการพักผ่อน สำหรับปัญหาที่พบคือวิวห้องนอนติดลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า จึงต้องทำการแก้ไขโดยใส่บานเลื่อนกระจกฝ้าให้กั้นการมองเห็นภายนอกแต่ยังคงสามารถเปิดเพื่อรับแสงจากภายนอกได้ด้วย ซึ่งการออกแบบพื้นที่แต่ละส่วนทางอินทีเรียดีไซเนอร์พยายามทำทุกอย่างให้มีความสมมาตรกัน
“การออกแบบแต่ละห้องเราจะรู้สึกในหัวว่าออกมาไม่เหมือนกัน อย่างห้องนอนใครก็อยากไปนอนโรงแรม แต่เราไม่อยากไปนอนโรงแรมแต่อยากได้ห้องนอนที่ดูคล้ายๆ เวลาไปโรงแรม เพราะเรารู้สึกว่าทำไมต้องไปนอนโรงแรมด้วย ส่วนตัวเรารู้สึกว่าถ้าจะพักผ่อนกลับมานอนบ้านดีกว่าไหม เลยอยากให้เป็นแบบโรงแรมที่โคซี่หน่อยๆ”
สำหรับพื้นที่ห้องน้ำส่วนตัวด้านในออกแบบให้ลดทอนการใช้พื้นที่ ด้วยการรวมตู้เสื้อผ้าเข้าไว้ในส่วนห้องน้ำ โดยออกแบบเป็นตู้ยาวและติดกระจกเพื่อขยายพื้นที่สายตาให้ดูกว้าง ซึ่งคุณมาร์วินต้องการให้ห้องน้ำมีลายหินอ่อน แต่ปัญหาหลักคือเมื่อใช้ไปนานๆ จะเกิดคราบเหลืองที่ดูไม่น่าใช้งาน ผู้ออกแบบจึงเสนอทางเลือกเป็นกระเบื้องซึ่งเป็นวัสดุแทนหินอ่อนมาช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างลงตัว และอีกปัญหาสำคัญสำหรับการออกแบบห้องนี้ ด้วยตึกหลังนี้เป็นคอนโดมิเนียม จึงมีเงื่อนไขเรื่องของเวลาในการก่อสร้างได้แค่สิบโมงถึงบ่ายโมงเท่านั้นที่มีเสียงได้ และหลังจากสี่โมงเป็นต้นไป เมื่อลูกบ้านกลับมาต้องไม่เห็นคนงานเลย ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยและการป้องกันเสียงรบกวนต่างๆ ทำให้ต้องใช้ระยะเวลานานกว่า 8 เดือนจึงออกมาเป็นบ้านหลังน้อยแสนอบอุ่นหลังนี้
“เราแฮปปี้กับบ้านหลังนี้นะ เราได้มีส่วนร่วมเกือบทั้งหมด แล้วทุกจุดก็เป็นสิ่งที่เราต้องการครบ แล้วโลเกชั่นก็แฮปปี้ ใกล้ที่ทำงาน ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้เซ็นทรัลฯ เราสามารถนั่งอยู่บ้านได้ทั้งวันนะ แต่ถ้าเบื่อๆ ก็เดินไปเซ็นทรัลได้ด้วย” คุณมาร์วินกล่าวทิ้งท้าย
เมื่อผ่านโถงทางเข้าจะพบกับส่วนของห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ที่รวมส่วนห้องครัวเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อเป็นการขยายพื้นที่ให้ดูกว้างมากขึ้น และโจทย์อีกเรื่องหนึ่งคือการทำกระจกแบบพาโนราม่าจนกลายมาเป็นหน้าต่างกระจกบานใหญ่ให้ทอดมองวิวทิวทัศน์ภายนอกได้
ถัดจากส่วนห้องนั่งเล่น คือพื้นที่ระเบียงที่นำไม้เดิมจากการทำบ้านเพื่อทำพื้นด้านนอกใหม่แทนการใช้กระเบื้อง และใช้ต้นไม้วางประปรายเพื่อบังวิวลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า
ส่วนด้านติดผนังคือพื้นที่นั่งทำงาน โดยทำชั้นสำหรับวางหนังสือเล็กๆน้อยๆ
พื้นที่ห้องนั่งเล่นที่เต็มไปด้วยโซฟาและของประดับตกแต่งที่คุณมาร์วินไปเลือกหามาด้วยตนเอง ขณะที่บรรดาของตกแต่งบ้านกระจุกกระจิก รวมทั้งหนังสือ เทียนหอม และดอกไม้แห้งต่างๆ ที่วางอยู่ตามมุมต่างๆภายในบ้าน เพิ่มความอบอุ่นและแต่งแต้มสีสันให้บ้านมีชีวิตชีวา
พื้นที่ส่วนห้องครัวส่วนสำคัญอีกส่วนที่ต้องมีพื้นที่ในการเก็บอุปกรณ์ รวมถึงสามารถเตรียมอาหารได้อย่างสะดวกสบาย โดยได้บริษัททำครัวเป็นมาออกแบบให้
โต๊ะรับประทานอาหารที่ได้มาจากเชียงใหม่ เข้าชุดกันกับเก้าอี้ตัวโปรดจากบ้านหลังแรก ส่วนโคมไฟคุณมาร์วินได้ไอเดียจากร้านเสื้อผ้าที่ต่างประเทศ นำมาออกแบบและทำด้วยตัวเอง
ประตูบานเกล็ดสีขาวทำเป็นพื้นที่เก็บของขนาดใหญ่ สำหรับใส่เอกสารและกระเป๋าเดินทาง ส่วนรูปภาพที่ประดับอยู่ตามผนังได้อิทธิพลจากพี่ชายที่ชอบสะสมรูปภาพ จึงนำมาตกแต่งบ้านร่วมด้วย
ห้องนอนโทนสีมืดตามสีห้องนอนบ้านเดิม เพิ่มอรรถรสในการพักผ่อน รวมถึงบานกระจกฝ้าที่เลื่อนปิดซ่อนทิวทัศน์จากภายนอก โดยแบ่งพื้นที่ไว้ครึ่งหนึ่งสำหรับวางของเล็กๆ น้อยๆ
ห้องน้ำลวดลายหินอ่อนที่ใช้วัสดุกระเบื้องแทนการใช้หินอ่อนจริง จึงป้องกันการเปลี่ยนสีของหินอ่อนได้ดี ส่วนตู้เสื้อผ้าทำให้เป็นตู้ยาวขนาดใหญ่ไว้รวมกันเพื่อการแก้ปัญหาเรื่องขนาดพื้นที่
พื้นที่โถงด้านหน้าทำให้เป็นเหมือนฮอล โดยออกแบบส่วนด้านข้างเป็นตู้สำหรับเก็บรองเท้า โดยใช้กระจกหลอกสายตาให้ดูกว้างมากขึ้น
ส่วนรูปภาพใหญ่ที่โถงทางเข้า เป็นภาพของคนที่ชนะการประกวดในประเทศไทยเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ส่วนภาพอื่นๆ เป็นของศิลปินมากมายจากทั้งไทยและต่างประเทศ