HYOGO PREFECTURAL MUSEUM OF ARTS

รวมความเป็นหนึ่งเดียว

พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งเขตการปกครองเฮียวโก ตั้งอยู่ในเขต HAT (Happy Active Town) ซึ่งเป็นศูนย์กลางเมืองแห่งใหม่ในเขตตะวันออกของโกเบ เขตนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เมื่อปีค.ศ. 1995 (The Great Hanshin-Awaji Earthquake) เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการบูรณะเมือง ให้เต็มไปด้วยความสุขอีกครั้ง โดยมีการสร้างอาคารที่อยู่อาศัยใหม่ๆ ขึ้นหลายแห่ง เพื่อเป็นบ้านให้กับผู้สูญเสียจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนั้น

พิพิธภัณฑ์เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนเมษายนปีค.ศ. 2002 หลังจากการวางแผนและทำงานอย่างยาวนาน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ค.ศ. 1994 โดยคณะกรรมการเพื่อการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ศิลปะ แห่งเขตการปกครองเฮียวโก ออกแบบโดย Tadao Ando Architect & Associates เริ่มการก่อสร้างเมื่อเดือนมีนาคม ปีค.ศ. 1999 และเสร็จสมบูรณ์เมื่อเดือนกันยายน ค.ศ. 2001

ด้วยความต้องการที่จะให้เกิดความตระหนักรู้ในหมู่ประชาชน ว่าพวกเขาสามารถเข้ามาพักผ่อนหย่อนใจในพิพิธภัณฑ์ได้ ทางผู้บริหารพิพิธภัณฑ์จึงมิได้แต่เพียงจัดแสดงงานศิลปะที่น่าสนใจเท่านั้น หากยังได้จัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกเอาไว้ต้อนรับผู้เข้ามาเยี่ยมเยือน เช่น Art Information Center, หอประชุม, ห้องแสดงงาน, Studio สอนงานศิลปะ ฯลฯ เพื่อให้พวกเขารู้สึกอยากกลับมาที่พิพิธภัณฑ์อีก

 

นอกจากตัวอาคารคอนกรีตเปลือยที่ออกแบบโดยสถาปนิกระดับ World Class อย่าง Tadao Ando จะดึงดูดสายตาของผู้คนที่เดินผ่านไปมาแล้ว ทางพิพิธภัณฑ์ยังต้องการสร้างความผูกพันกับชุมชน เพื่อให้ประชาชนในเขตการปกครองเฮียวโกรู้สึกกับพิพิธภัณฑ์เหมือนเป็นบ้านหลังที่สอง เพื่อที่จะบรรลุถึงวัตถุประสงค์นี้ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ค.ศ. 2010 จึงได้ตั้งชื่อถนนที่เชื่อมต่อพิพิธภัณฑ์กับสถานีอิวายะของรถไฟสายฮันชิน, สถานีนาดะของรถไฟสายเจอาร์, และสวนสัตว์โอจิ ว่า ‘ถนนสายพิพิธภัณฑ์’ ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันของพิพิธภัณฑ์กับชุมชนนั่นเอง

โครงสร้างของอาคารพิพิธภัณฑ์ทำให้เกิดมุมมองที่หลากหลาย แต่ละมุมของอาคารเมื่อถูกแสงตกกระทบ ทำให้เกิดเงาและมุมมองที่แตกต่างกัน โถงทางเข้าหลักมีบรรยากาศที่สงบ สลัว ตรงกันข้ามกับความเจิดจ้าของแสงอาทิตย์ ที่ส่องผ่านผนังกระจกของระเบียงกว้างลงสู่พื้นที่จัดแสดงงาน ที่สร้างบรรยากาศสดใสมีชีวิตชีวา นอกจากนี้ วิวที่เปลี่ยนไปของท้องทะเลในอ่าวโกเบและสภาพแวดล้อมโดยรอบ จากเช้าจรดเย็น จากฤดูหนึ่งสู่อีกฤดู ยังสะท้อนในกระจกของกลุ่มอาคารพิพิธภัณฑ์ ทำให้เกิดภาพใหม่ๆ อยู่โดยตลอด

คอลเลกชั่นงานศิลปะที่สำคัญของพิพิธภัณฑ์ได้แก่ งานประติมากรรมของ Auguste Rodin, Henry Moore, Jean Arp, Ossip Zadkine, Naum Gabo และ Alberto Giacometti ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นศิลปินผู้สร้างประติมากรรมสมัยใหม่ (Modern Sculpture) ทั้งสิ้น และงานภาพพิมพ์ทั้งแบบร่วมสมัยและสมัยใหม่ของ Francisco Jose de Goya, Edouard Manet, Max Klinger, Pablo Picasso, Wassily Kandinsky, Andy Warhol และ Jasper Johns

ABOUT ARCHITECT

Tadao Ando เกิดในครอบครัวที่ค่อนข้างยากจน ในเขตชุมชนโรงงานเล็กๆ ของเมืองโอซาก้า เมื่อวันที่ 13 กันยายน ค.ศ. 1941 เขาเคยทำงานเป็นทั้งคนขับรถบรรทุกและนักมวย แต่เมื่อเรียนจบชั้นมัธยมฯเขาก็ได้ทำงานเป็นพนักงานเขียนแบบของบริษัทสถาปนิกแห่งหนึ่ง และทั้งๆ ที่ไม่ได้รับการศึกษาหรืออบรมทางด้านสถาปัตยกรรมโดยตรง เขากลับฝึกฝนตัวเองให้เป็นสถาปนิกได้ หลังจากที่เดินทางไปทั่วโลก เพื่อไปดูผลงานของสถาปนิกอย่าง Le Corbusier, Ludwig Mies Van der Rohe, Frank Lloyd Wright และ Louis Kahn เขาก็ได้กลับโอซาก้าใน

ปีค.ศ. 1968 เพื่อเปิดบริษัทของตัวเอง ชื่อ ‘Tadao Ando Architect and Associates’ผลงานของ Tadao ที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัว คือ คอนกรีตหล่อ (Cast-In-Place Concrete) และรูปแบบของอาคารที่สะท้อนความงดงามที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้งแบบบทกวีของญี่ปุ่น (Haiku) ด้วยการออกแบบให้ทางสัญจรภายในกว้างขวางซับซ้อนอยู่ภายในตัวอาคารที่มีรูปด้านภายนอกเรียบง่าย ในฐานะสถาปนิก Tadao เชื่อว่า สถาปัตยกรรมสามารถเปลี่ยนสังคมได้ ‘To Change the Dwelling is to Change The City And To Reform Society’

Address: 1-1-1 Wakihama Kaigandori, Chuo-Ku, Kobe, Hyogo, Japan
Main Purpose of Structure: Arts Museum
Site Area: 19,000.00 Sq.M.
Building Area: 12,807.71 Sq.M.
Total Floor Area: 27,461.41 Sq.M.
Height: 23.10 M.
Stories: 4 Above Ground and 1 Underground
Structure: Steel Reinforced Concrete Structure (With Seismic Isolation)
Foundation Ground: Cast-In-Place Concrete Steel Piles/Cast-In-Place Concrete Pile

– Main Exterior Finish –
Floor: Flat Concrete Block Flooring
Walls: Aluminum Curtain Wall, Metallic PanEls and Natural Stone
Roofs: Waterproof Frp (Fibre-Reinforced Polymer) with Clerestories In Some Areas and Canopies

Leave A Comment