HOMELIKE CONTEXT IN NEW ATTITUDE
ห้องใหม่ที่คุ้นเคยของคนก้นครัว
Text: นวภัทร ดัสดุลย์
Photo: เปี่ยมพล จันทร์เปี่ยม
Design: Fattstudio (http://wattikon21.wix.com/fattstudiobkk)
จากจุดที่เรายืนอยู่นี้ เมื่อทอดสายตาออกไปทางทิศตะวันตกจากริมระเบียงชั้น 12 ห้องคอนโดมิเนียมแบบดูเพล็กซ์ของเชฟหนุ่มร่างเล็กนามว่า พงศกร ลิขิตพรสวรรค์ หรือคุณป๊อย คือทัศนียภาพของมหานครแห่งสยามบริเวณสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงถนนเจริญกรุง และถนนเจริญนคร ที่ไร้ซึ่งอาคารสูงมาบดบังทัศนะวิสัยในการมองเห็น ยังผลให้ผู้อาศัยสามารถชื่นชมภาพกว้างของย่านคลองสานจากมุมสูง แลการสัญจรของเรือลำเล็กลำน้อยที่แล่นผ่านเส้นเลือดใหญ่ของกรุงเทพฯได้เต็มสายตาอย่างน่าอิจฉาไปโดยปริยาย
เดิมทีนั้นคุณป๊อยอาศัยอยู่ที่คอนโดมิเนี่ยมแห่งนี้มานานกว่าสิบปี ส่วนห้องนี้เป็นห้องเก่าอายุมากกว่าสิบปีเช่นกันซึ่งถูกปล่อยร้างมานาน ครอบครัวของเขาตัดสินใจซื้อห้องเปล่าห้องนี้มาแล้วปรับโฉมเสียใหม่จนแทบไม่เหลือเค้าลางเดิมให้เห็น หนุ่มพิจิตรโดยกำเนิดย้อนวันวานให้เราฟังว่า “ผมอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เข้ามาเรียนกรุงเทพฯตอน ป.5 แต่ว่าอยู่ชั้นล่างเป็นห้องสตูดิโอ พอดีคุณแม่ต้องขึ้นมาอยู่ที่นี่ด้วยเลยต้องขยับขยาย ดูคอนโดหลายที่ ดูบ้านไกลๆ หลายที่ เพราะเราก็มีงบประมาณ แต่สุดท้ายพอดีห้องนี้เขาขาย เราก็คิดว่ามันกลางเมืองดี ที่อยู่ก็คุ้นชิน พอมาดูสภาพห้องเป็นห้องที่ร้างมาเป็นสิบปี ซึ่งตึกมันก็เก่ามากอยู่แล้ว เลยต้องรีโนเวทใหม่ ห้องนี้คนตัดสินใจหลักๆ เลยคือคุณแม่ เพราะคุณแม่ชอบบรรยากาศตอนกลางคืนของห้องนี้ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง”
ซึ่งด้วยอาชีพที่ต้องคลุกคลีอยู่กับห้องครัวและการทำอาหาร สังเกตได้ชัดว่าครัวของคุณป๊อยจึงมีพื้นที่กว้างขวางเป็นพิเศษ “ผมทำงานเป็นพ่อครัว เป็นที่ปรึกษา และรับงานอีเว้นท์ ผมต้องการครัวใหญ่ๆ กว้างๆ และดีๆ ซึ่งผมต้องการเตรียมของทุกอย่างได้ นั่นเป็นสิ่งแรกที่คุยกัน” คุณป๊อยเล่าฟังก์ชันที่ต้องการ พร้อมนำโจทย์นี้ไปคุยกับทีมออกแบบจาก Fattstudio ที่คุ้นเคยกันดี เพราะว่ามี คุณแฟต-วัทธิกร โกศลกิตย์ Design Director ผู้ร่วมก่อตั้ง Fattstudio เป็นเพื่อนสนิทจากคณะสถาปัตย์ฯ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นั่นเอง
เขาเล่าต่อว่า “ผมเรียนสถาปัตย์ฯ มาเหมือนกัน จะพอรู้บ้างว่าห้องมันต้องตอบสนองความต้องการกับการใช้ชีวิต อย่างเช่น ห้องรับแขกที่ติดกับครัว ทำครัวให้กว้าง มีโต๊ะใหญ่ ส่วนโซฟาตัวนี้ลงทุนซื้ออย่างดีเพราะรู้ว่าแม่ตื่นมาต้องมานั่งที่โซฟา อย่างห้องนอนผมไม่ต้องใหญ่ก็ได้ มีโต๊ะทำงาน มีห้องน้ำแยกกันของใครของมัน เรื่องโทนของห้องผมบอกว่าอยากได้ปูนเปลือยฉาบเรียบขัดมัน บานประตูขอบสีดำ ทาง Fattstudio ก็จะเอารูปมาให้ดูเป็นตัวอย่างก่อนว่าอย่างนี้ได้ไหม โซนนี้ได้ไหม”
ทีมออกแบบจาก Fattstudio คิดคอนเซ็ปต์การปรับโฉมห้องใหม่ โดยตั้งนิสัยของคู่แม่ลูกที่สนิทกันมากแต่ชอบอะไรไม่ค่อยเหมือนกันเป็นโจทย์หลัก จึงพยายามทำบ้านให้มีหลายมุมมองจากภายใน และแบ่งพื้นที่ใช้สอยให้มีลักษณะเชื่อมต่อกันเกือบทั้งหมด ชั้นล่างเน้นการเปิดโล่งโดยใช้ครัวและมุมนั่งเล่นเป็นพื้นที่ส่วนกลางส่วนด้านบนแบ่งสัดส่วนด้วยช่องทางเดินโดยแยกทั้งห้องนอน ห้องน้ำ และระเบียงของแต่ละคนออกจากกันตามความต้องการ แต่ในความเป็นจริงแล้วห้องของทั้งคู่ติดกัน โดยมีลักษณะเหมือนเป็นเพื่อนบ้านกันเวลาแต่ละคนอยู่ในห้องของตัวเอง
ทีมออกแบบยังอธิบายรายละเอียดต่อไปอีกว่า สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจนคือจากเดิมที่เคยมีห้องน้ำสองห้อง คือชั้นบนกับชั้นล่าง ภายหลังจึงต้องเพิ่มเป็นสามห้อง ส่วนโถงบันไดเดิมที่เป็นบันไดพับผ้าซึ่งโดยรวมขนาดไม่ใหญ่ไปกว่าช่องเปิดในปัจจุบันมากเท่าไรนัก แต่พื้นที่ส่วนนี้ถูกผลักออกไปให้เป็นคนละส่วนกับห้องนั่งเล่นโดยจะมีผนังกั้นไว้ ประกอบกับความสูงจากพื้นจรดฝ้าเพดานเดิมไม่ถึง 2.5 เมตร ทำให้โถงบันไดแบบ Double height ceiling น่าจะมีค่ากับผู้อยู่อาศัยอย่างมากและไม่ทำให้ห้องดูอึดอัดจนเกินไป
ถึงแม้ขนาดของห้องจะไม่ได้โออ่า ทว่าก็ไม่ได้สร้างความอึดอัดให้กับผู้อาศัย ซึ่งจะว่าไปแล้วน่าจะรู้สึกอบอุ่นกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ เพราะในความที่แม่กับลูกชอบอะไรไม่ค่อยเหมือนกัน ยังมีพื้นที่ส่วนกลางเชื่อมสัมพันธ์ให้ความแตกต่างหลอมละลายไปได้ชั่วขณะหนึ่ง
ทีมออกแบบจาก Fatt! Studio ช่วยคิดคอนเซ็ปต์การปรับโฉมห้องใหม่ โดยตั้งนิสัยของคู่แม่ลูกที่สนิทกันมากแต่ชอบอะไรไม่ค่อยเหมือนกันเป็นโจทย์หลัก จึงพยายามทำบ้านให้มีหลายมุมมองจากภายใน และแบ่งพื้นที่ใช้สอยให้มีลักษณะเชื่อมต่อกันเกือบทั้งหมด ชั้นล่างเน้นการเปิดโล่งโดยใช้ครัวและมุมนั่งเล่นเป็นพื้นที่ส่วนกลางส่วนด้านบนแบ่งสัดส่วนด้วยช่องทางเดินโดยแยกทั้งห้องนอน ห้องน้ำ และระเบียงของแต่ละคนออกจากกันตามความต้องการ แต่ในความเป็นจริงแล้วห้องของทั้งคู่ติดกัน โดยมีลักษณะเหมือนเป็นเพื่อนบ้านกันเวลาแต่ละคนอยู่ในห้องของตัวเอง
ภายในห้องออกแบบโดยเน้นความเรียบโล่งในโทนสีเทา-ขาว พื้นที่ใต้บันไดลอยออกแบบโดยยกพื้นต่างระดับเป็นเคาน์เตอร์บิลท์อิน เพื่อทำหน้าที่เป็นส่วนนั่งพัก ลิ้นชัก และวางทีวี ซึ่งช่วยประหยัดเนื้อที่และเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานในพื้นที่คับแคบอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย พร้อมหันหน้าโซฟาหนังจาก Studio 128 เข้าหาบันไดเพื่อเป็นมุมนั่งเล่นอย่างพอเหมาะพอเจาะ
ผนังฉาบปูนเปลือยขัดมันด้านที่รับน้ำหนักของบันไดลอย มีการเพิ่มแนวเซาะร่องทั่วผนังเพื่อลดปัญหาทางเทคนิคการฉาบของช่างให้น้อยที่สุด ทั้งยังเป็นการเพิ่มรายละเอียดและผิวสัมผัสให้ผนังมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ส่วนผนังด้านทิศตะวันตกมีการติดตั้งวงกบหน้าต่างกรุหน้าบานกระจกใส เพื่อเปิดรับแสงจากด้านนอกเข้าสู่ด้านใน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความโปร่งสบายให้โถงบันไดแบบดับเบิ้ลสเปซและพื้นที่ใช้สอยด้านล่างทั้งหมดได้ดี
ขั้นบันไดทำจากไม้มะค่าแบบโอเวอร์สเกล จากเดิมหนาเพียง 5 ซม.ถูกปรับขึ้นเป็นสองเท่าเพื่อเหตุผลด้านความแข็งแรงในการยึดเกาะกับผนัง พร้อมทาสีย้อมไม้เพื่อรักษาเนื้อไม้ให้ดูเหมือนใหม่อยู่เสมอ
แสงจากภายนอกซึ่งทะลุผ่านช่องแสงบริเวณโถงบันไดและประตูบานเลื่อน ช่วยเพิ่มความสว่างให้กับพื้นที่เปิดโล่งและเชื่อมต่อถึงกันระหว่างมุมครัวกับมุมนั่งเล่นได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น อีกทั้งตำแหน่งของประตูบานเลื่อนกับประตูทางเข้าห้องที่อยู่รงข้ามกัน ยังทำหน้าที่เป็นทางผ่านเข้าออกของลมจากภายนอก ช่วยเรื่องการถ่ายเทอากาศได้ดี จึงไม่รู้สึกร้อนอบอ้าวแม้ไม่ได้เปิดเครื่องปรับอากาศ
ภายในห้องนอนของคุณป๊อยยังคงอบอุ่นสบายตา แม้จะฉาบผนังด้วยปูนเปลือยแต่ก็ไม่รู้สึกดิบจนแข็งกระด้างเกินไป เมื่อถูกเบรกด้วยโทนสีน้ำตาลของพื้นไม้ลามิเนต เตียง ตลอดจนสีสันและลวดลายของชุดเครื่องนอน
มุมครัวภายในห้องคุมโทนด้วยสีขาวดูสะอาดตา ออกแบบชุดครัวบิลท์อินท็อปสแตนเลส เพื่อฟังก์ชันการใช้งานที่สมบุกสมบันและง่ายต่อการจัดการดูแลรักษาส่วนโต๊ะรับประทานอาหารสั่งทำพิเศษจากไม้มะค่า ขนาด 75 x 80 x 90 ออกแบบโดย Fattstudio เช่นกัน
