HOME SWEET HOME
บ้านที่เติมเต็มความอบอุ่นให้ครอบครัว
TEXT นวภัทร ดัสดุลย์ เรียบเรียง
PHOTO เปี่ยมพล จันทร์เปี่ยม
DESIGN: บริษัท ออกแบบ พาย จำกัด
เหตุผลสำคัญสำหรับครอบครัวคนรุ่นใหม่คู่นี้ หนึ่งนักธุรกิจหนุ่มกับหนึ่งแพทย์หญิงที่แต่งงานกันและมีพยานรักหนึ่งคนซึ่งกำลังอยู่ในช่วงวัยกำลังเรียนรู้ และต้องการพื้นที่สำหรับสร้างเสริมจินตนาการอย่างเต็มที่ การพักอาศัยในคอนโดมิเนียมกลางเมืองซึ่งมีพื้นที่ไม่กว้างนักจึงเป็นข้อจำกัดที่ คุณมิ่ง-ณัฐภูมิ กัลยาศิริ และคุณกิฟต์-พญ.วรวรรณ ลีลาภรณ์ เลือกตัดสินใจมองหาพื้นที่ความสุขที่ใหญ่กว่า นั่นคือบ้านอันแสนอบอุ่นสำหรับพวกเขาและลูกชายสุดที่รัก น้องมาวิน-อาร์ชาวิน กัลยาศิริ จนมาลงตัวที่โครงการเดอะปาล์มพัฒนาการ ซึ่งห่างออกมาไม่ไกลจากทำเลเดิมย่านทองหล่อ-เอกมัยที่คุ้นเคยนัก
“ผมมีคอนโด 1 ห้องนอนอยู่ที่ทองหล่อ ตัวผมทำธุรกิจส่วนตัวอยู่แถวสุขุมวิท ภรรยาผมเป็นหมอทำงานอยู่เอกมัย คอนโดอยู่ทองหล่อมันก็สะดวก แต่พอเรามีลูกซึ่งตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่าพอครอบครัวเริ่มขยายทำไมถึงอยู่คอนโดไม่ได้ แต่พออยู่จริงก็เริ่มคิดว่าลูกจะนอนอย่างไร เพราะมีห้องนอนแค่ห้องเดียว ไหนจะแม่บ้านอีก คงอยู่ไม่ได้หรอก พอเก็บเงินได้ระดับหนึ่งก็เลยหาบ้าน ก็พยายามหาให้ใกล้กับโซนเก่า พยายามดูรอบๆ จนมาเจอที่นี่ ผมและครอบครัวจึงซื้อบ้านติดกัน 5 หลัง เพราะเราอยากอยู่เป็นครอบครัวใหญ่” คุณมิ่งเล่าเหตุผลของการตัดสินใจหาซื้อบ้านแทนการอยู่คอนโด พร้อมอุ้มน้องมาวินที่มีท่าทีรักความสนุกสนานมานั่งอยู่บนตักระหว่างการสนทนากับเราไปด้วย
คุณมิ่งตัดสินใจเลือกดีไซเนอร์และบริการจาก pye ในการปรับปรุงบ้านหลังใหม่ให้มีบรรยากาศหรูหราและร่วมสมัยตามความต้องการ แต่ยังคงความเชื่อในเรื่องฮวงจุ้ย โดยการเชิญซินแสมาช่วยดูเรื่องการจัดวางองค์ประกอบภายในบ้าน โดยการปรับปรุงพื้นที่ทั้งหมดของบ้าน ดีไซเนอร์เน้นการใช้โทนสีเทาและน้ำตาลเป็นโทนสีหลัก ประกอบไปกับการตกแต่งที่เน้นความหรูหราตามความต้องการของผู้อาศัย พื้นที่ใช้สอยชั้นล่างประกอบด้วย ห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน และห้องอาหาร โดยทั้ง 3 ส่วนนี้เชื่อมต่อกันเสมือนโอเพ่นแปลน แต่มีการออกแบบโดยใช้การกั้นพื้นที่ระหว่างห้องอาหารที่อยู่ด้านขวามือ และห้องนั่งเล่นทางด้านซ้ายมือออกจากกัน ให้ส่วนด้านหน้าสุดเป็นเสมือนส่วนต่อเติมเพื่อให้เป็นมุมอ่านหนังสือ ในขณะที่บนพื้นที่ชั้น 2 ประกอบด้วย 3 ห้องนอน กับ 1 ห้องโถงด้านหน้า ทว่าเนื่องจากคุณมิ่งและคุณกิฟต์ต่างก็เป็นคนรักการแต่งตัว ดีไซเนอร์จึงเล็งเห็นว่าควรจะเพิ่มพื้นที่ Walk in closet เข้ามาด้วย เนื่องจากพื้นที่ในห้องนอนที่มีอยู่อาจจะไม่เพียงพอ จึงรวบพื้นที่ของห้องโถงมาเป็น walk in closet
“จริงๆ ความตั้งใจแรกคืออยากประหยัด คิดว่าจะแต่งน้อยๆ ยึดแบบบ้านเดิมไว้มากที่สุด” นักธุรกิจหนุ่มเล่าต่อ “แต่ผมเคยแต่งคอนโดแล้วให้เพื่อนที่เพิ่งจบเมืองนอกมาช่วยตกแต่ง แต่ว่าไม่ค่อยเวิร์ก ครั้งนี้เลยอยากหามืออาชีพมาช่วย เลยมองหาอินทีเรียมืออาชีพ จนมีเพื่อนที่เคยให้บริษัท JARKEN ออกแบบบ้านให้แนะนำให้ลองมาคุยกับ pye ที่เป็นบริษัทลูกของ JARKEN ที่บอกว่าตั้งใจแรกคิดว่าจะแต่งไม่เยอะ แต่สุดท้ายจริงๆ เข้าใจอย่างที่เพื่อนบอกเลยว่าแต่งบ้านเป็นอะไรที่เปลืองที่สุดในชีวิตแล้ว (หัวเราะ) พอมันกลายเป็นบ้านของเรา เราก็จะซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นตัวท็อปทุกอย่าง”
ก่อนจะกลับเราถามคุณมิ่งว่า การมีบ้านที่ลงตัวสำหรับครอบครัวนั้นดีอย่างไรบ้าง “เราเป็นครอบครัวที่ลงตัวขึ้น” เขาตอบ “ผมมีความรู้สึกว่าพอเราใช้ชีวิตคนเดียวมานานๆ พอวันหนึ่งเราแต่งงาน เรามีครอบครัว พอเรามีลูก เรื่องไลฟ์สไตล์และความคิดเรามันก็เริ่มเปลี่ยน ถ้าปกติผมจะเป็นคนชอบสังสรรค์ เฮฮา ปาร์ตี้ แต่พอเรามาอยู่เป็นบ้านที่นี่ การชวนเพื่อนมาปาร์ตี้ หรือกลับมาทำงานที่บ้าน ผมว่ามันก็เป็นครอบครัวที่ลงตัวขึ้น ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดเลยคือลูกมีความสุขขึ้น มีพื้นที่วิ่งเล่น มีเสียงหัวเราะ”
“พอมีบ้านมันก็เป็นครอบครัวที่ลงตัวขึ้น ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือลูกมีความสุขขึ้น มีพื้นที่วิ่งเล่น มีเสียงหัวเราะ”
ณัฐภูมิ กัลยาศิริ