HAPPINESS IS ALL AROUND
สุขเปี่ยมสุขของ ‘เจมส์ รัศมีแข’
Text: ทัดจันทร์ เกตุสิงห์สร้อย
Photo: ฉัตรชัย เจริญพุฒ
ถ้าหากเราเอ่ยชื่อ ‘James Fagerlund’ หลายคนคงเกาหัวแกรกๆ แต่หากจะบอกว่า เจมส์ มีชื่อในวงการว่า ‘รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น’ หรือ ‘เอ็นจอย’ แห่งซีรีส์ คลับฟรายเดย์ รับรองว่านาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก วันนี้ Daybeds ได้จังหวะพอดิบพอดี แวะเวียนมาเคาะประตูบ้าน ซึ่งแน่นอนว่าคุณเจมส์ หรือ รัศมีแขของทุกคนเปิดประตูต้อนรับเราด้วยคำทักทายเปื้อนยิ้ม “เข้ามาเลยพี่ เข้ามาเลย”
คุณเจมส์ หรือ รัศมีแข ในชุดลำลองสบายๆ ที่คุณเจมส์บอกกับเราว่า “นี่แหละ คือเจมส์”
ถัดจากประตูรั้วไม้บานหนา เบื้องหน้าเราคือบันไดปูนขัดมัน 3-4 ขั้น และสระว่ายน้ำสีฟ้าสด คุณเจมส์กำลังง่วนอยู่กับการแต่งตัว หลังจากเพิ่งขึ้นมาจากสระว่ายน้ำหมาดๆ เราเลยถือวิสาสะสำรวจบ้านด้วยสายตา ระหว่างรอคุณเจมส์ และคุณแม่แหม่ม คุณแม่บุญธรรมของเจมส์กำลังรับโทรศัพท์สำคัญ จากสระว่ายน้ำ โต๊ะตัวใหญ่เต็มไปด้วยอาหารและผลไม้วางเคียงคู่ครัวแบบเปิด ขวามือเราคือห้องทำงานและห้องนั่งเล่น กระเถิบมาหน่อยคือบันไดกว้างนำทางไปสู่ชั้นสอง คุณเจมส์แต่งตัวเสร็จแล้ว กำลังเดินลงมาหาเรา
เจมส์: บ้านรกไหม ไม่หรอกนะ (หัวเราะ) ชอบเวลาคนมาบ้าน เราจะไม่เก็บของเลย เราอยากให้เห็นเราแบบ Real เต็มที่เลยนะ สบายๆ
DBs: บ้านสวยมาก คุณเจมส์ได้มีส่วนช่วยในการดีไซน์ หรือแต่งบ้านด้วยไหม?
เจมส์: ไม่ได้จัดหรือแต่งอะไรเลย เพราะที่นี่มีกฎว่าจะต้องไม่หลุดธีม แล้วคือปกติอยู่สวีเดน พอมาทำงานที่ไทย ก็ไม่มีบ้านอยู่ไง ก็เลยมาอยู่ที่นี่ ซึ่งจริงๆ แล้วบ้านหลังนี้เป็นของ ‘แม่แหม่ม’ และ ‘พี่หมู’ เจมส์ย้ายเข้ามาอยู่ได้ปีนี้เข้าปีที่ 2 แล้วโดยส่วนมากถ้าเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ แม่กับพี่หมูจะเป็นคนนำเข้ามา ส่วนเราแค่มาอยู่ พี่เท็น น้องไทม์ น้องเดียร์ (ลูกสาว-ชายของพี่หมูและแม่แหม่ม) ก็จะมีของกุ๊กกิ๊ก ซึ่งก็อยู่ในมุมใครมุมมัน ไม่ข้องเกี่ยวกัน แต่โซฟาใหญ่ในห้องทำงานจะเป็นที่นอนประจำ ตื่นลงมาจากเตียงก็จะมานอนเล่นตรงนี้ ไม่ก็อยู่ในสระว่ายน้ำ แม่ก็เลยสร้าง ‘เรือนรัศมีแข’ ที่เพ้นต์ตรงข้างสระ ที่เพื่อนของแม่แหม่มที่เรียนช่างศิลป์มาเพ้นต์ให้ ส่วนตัวบ้านพี่หมู แฟนแม่แหม่มเป็นคนออกแบบ
แม่แหม่ม: คือเราออกแบบมา แล้วให้สถาปนิกวาด และเซ็นรับรองให้ จากนั้นก็ไปจ้างช่างเชื่อมเหล็ก บ้านนี้สร้างมาได้ 10 ปีแล้ว สมัยนั้น คนที่กล้านำเหล็กมาสร้างบ้านแทบจะไม่มี ช่างเขาก็งงๆ ว่าจะสร้างออกมาแล้วเป็นแบบไหน? เราก็ไม่รู้หรอกว่าจะสร้างออกมาได้ไหม? แต่เคยเห็นพวกอาคารจอดรถในห้าง เขายังสร้างด้วยเหล็กได้ เราก็ต้องทำได้ ซึ่งช่างเขาก็บอกเราว่า 5 เมตรนะพี่กว้างที่สุดแล้ว เราก็เออๆ แค่ไหนแค่นั้น จากนั้นก็วางซีแพคลงบนคานเหล็ก จนออกมาอย่างที่เห็น ตัวบ้านกว้าง 87 ตารางวา ออกแบบแบบเต็มพื้นที่ เพราะบ้านเราเป็นคนไม่ขยัน จะให้มีสนามหญ้าเราก็ขี้เกียจจะตัด ก็เลยเทปูนรอบบ้านแบบนี้ไปเลย
เดิมทีรอบตัวบ้านพี่หมูและพี่แหม่มตกลงปลงใจออกแบบให้มีทางน้ำไหลรอบบ้าน เพื่อให้ลมที่พัดเข้ามาในตัวบ้านหอบเอาความเย็นจากน้ำเข้ามาได้ แต่ด้วยอากาศและโอกาสที่ไม่เอื้ออำนวย แพลนเลยต้องพับเก็บไป เหลือเพียงตัวบ้านที่เน้นเพดานสูง และกระจกรอบตัวบ้านไว้
แม่แหม่ม: พี่ชอบให้บ้านดูโปร่ง ก็เลยใช้กระจกรอบตัวบ้าน ส่วนประตูบานใหญ่ด้านหน้า เราสั่งทำพิเศษ เพราะไม่ชอบใจวงกบประตูที่ขายตามท้องตลาดทั่วไป ตัวบานเฟี้ยมเหล็กนั่นก็เหมือนกัน ส่วนไม้ที่ใช้แทบจะทั้งหมดเป็นไม้จากเรือนไทยหลังเก่า ที่เราไปเลือกเก็บมา ข้อดีของเหล็กคือไม่ต้องติดแผงควบคุมไฟฟ้าลัดวงจร เพราะเหล็กไม่นำไฟ ยังไงก็ไม่ต้องกลัวไฟดูด อีกอย่างในอนาคตถ้าเกิดมีแผนจะย้ายจะทุบ เหล็กเรายังชั่งกิโลฯ ขายได้อีกนะ (หัวเราะ)
DBs: อยากให้จำกัดความสไตล์การแต่งบ้านให้เราฟังหน่อย
พี่หมู: Loft มันเป็นสไตล์ของพวกนิวยอร์ก แต่บ้านเราเป็นป่าร้อนชื้น เป็นสไตล์ Modern Tropical ซึ่งจะพบในออสเตรเลีย หรือสิงคโปร์ ที่เขามักสร้างที่อยู่อาศัยด้วยเหล็ก ทีนี้เราใช้ปูนเปลือยมาผสมเพื่องานดูอ่อนนุ่มขึ้น แล้วก็ให้ไม่สิ้นเปลือง แล้วก็ดูไม่สกปรก ซึ่งสมัยนั้น 25 บาทต่อตารางเมตรเอง เราก็ถามช่างเขาว่าทำยังไง แล้วก็มานั่งทำเอง บางมุมเราก็ไปเอาแรงบันดาลใจของฝรั่งมาผสม อย่างพื้นจากเดิมที่พื้นเป็นปูนธรรมดา ด้วยความที่แหม่มเขาเป็นผู้หญิง ก็ต้องเปลี่ยนเป็นปูพื้นด้วยปาร์เกต์แทน (พี่แหม่ม: ไม่งั้นดูเป็นพื้นโรงงานมาก)
ส่วนต้นไม้ เราก็เอามาปลูกตั้งแต่ต้นเล็กๆ วิธีดูแลไม่ยากเลย เพราะที่นี่ไม่เคยรดน้ำต้นไม้ (หัวเราะ) อย่างต้นที่สระว่ายน้ำไล่จากหน้าบ้านมา ก็มีต้นพะยูง ต้นปีบ และต้นสาละ เราชอบฟอร์มของมัน ชอบเวลาที่ผลิใบแล้วร่วงลงมา เลือกแล้วว่าต้องดูแลรักษาง่าย คิดมากแม้กระทั่งห้องน้ำ ตามสายตาช่างกล้องอย่างเรา จะถ่ายรูปทีต้องมีเสปซ ซึ่งถ้าห้องน้ำแคบ แน่นอนคนที่เข้าไปถ่ายรูป รูปออกมาไม่สวยหรอก แล้วก็มีหนังสืออยู่ในนั้น เพราะไม่อยากให้ห้องน้ำดูเป็นส่วนที่สกปรก ถึงต้องแยกออกมา แต่อยากให้มันสมูทเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน เป็นห้องอ่านหนังสือก็ได้ ซึ่งเจมส์เขาจะชอบอ่านขายหัวเราะ ฟังเพลงบ้านๆ อยู่ในนั้น
ตอนที่ทำบ้าน ผมคุยกับแฟนผมว่า เราจะทำยังไงให้บ้านเป็นบ้านจริงๆ หมายถึงมีสมบัติให้น้อยชิ้น ดูมินิมอลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งแรกๆ ก็เป็นแบบนั้นนะ แต่พออยู่ไปอยู่มาเข้าปีที่ 10 ก็เป็นอย่างที่เห็น แม้จะมีของเยอะไปหน่อย แต่ก็สวยและมีเสน่ห์ในแบบของมัน เป็นบ้านที่นั่งตรงไหนก็เป็นมิตรกับเราที่เป็นผู้อาศัยดี
จากชื่อตัวละครที่คุณแหม่มเคยเล่นสมัยยังสาว ‘รัศมีแข’ กลายเป็นชื่อในวงการของคุณเจมส์ในปัจจุบัน
ผนังบานเฟี้ยมเปิดออกรับลมได้เต็มที่ อีกทั้งในตอนกลางวันยังเปิดรับเอาแสงธรรมชาติเข้ามาแบบไม่ต้องพึ่งไฟฟ้า
โครงสร้างเหล็กที่คุณแหม่มตั้งใจให้ดูแล รักษาง่าย “เราทาสีกันสนิมไว้หมด ส่วนตรงไหนที่เราอยากให้เป็นสนิมก็เว้นว่างไว้ กลายเป็นสวยไปอีกแบบ”
ห้องน้ำแยกออกมาจากในส่วนของห้อง เพื่อให้สมาชิกภายในบ้านไม่ขลุกตัวอยู่ในห้องมากเกินไป
พื้นที่ชั้นสอง คุณหมูออกแบบให้โล่ง เพื่อการใช้สอย และวางกระจกบานใหญ่ดูคล้ายสตูดิโอถ่ายภาพ เพื่อเอื้อต่องานช่างภาพที่หนังสือขวัญเรือน งานหลักของคุณหมู
เฟอร์นิเจอร์จำพวกตู้ขนมาจากบ้านเรือนไทยหลังเดิม คอนทราสต์กับ
โซฟานูบัคสมัยใหม่อย่างไม่น่าเชื่อ
มุมโซฟาด้านหนึ่งของห้องทำงาน คือที่นั่ง-นอนเล่น เป็นประจำของคุณเจมส์