DARE TO DREAM
แต่งแต้มเติมฝัน
Text: อริญชัย วีรดุษฎีนนท์
Photo: ฉัตรชัย เจริญพุฒ
“ได้โปรดเดินไปจากฉัน จงทิ้งฝันที่มี ไม่รักดี คนคนนี้ โปรดอย่ามองกลับหลัง อย่าฝังฉันไว้ในหัวใจ และคงไม่นานเท่าไหร่ เธอจะเจอคนที่ดี” ท่อนฮุกของเพลง ‘ไม่รักดี’ ยังคงดังอยู่ในโสตประสาทของผม ขณะที่กำลังเดินทางไปบ้านเจ้าของต้นฉบับเพลงดังกล่าว ‘พี่อุ๊-หฤทัย ม่วงบุญศรี’ แถวๆ ลาดกระบัง ผมเปิดเพลงนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดทาง พลางคิดในใจว่าบ้านของนักร้องสาวเสียงเท่คนนี้ ซึ่งภาพนอกดูเป็นร็อคเกอร์ จะต้องโดดเด่นสะดุดตาในอารมณ์แบบเข้มๆ เท่ๆ แน่นอน
ทว่าพลันที่เรามาถึง ภาพที่ปรากฏตรงหน้ากลับเป็นบ้านสีขาวเรียบสไตล์วินเทจ เต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านแอนทีค ล้อมรอบด้วยหมู่มวลดอกไม้กับสวนสไตล์อังกฤษ นี่ผมไม่ได้ฝันไปใช่หรือไม่ ! เมื่อเพลงไม่รักดีในซีดีบนรถผมเล่นจบพอดี ส่วนพี่อุ๊กำลังกุลีกุจอเปิดประตูบ้านเชิญเรา ผมรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกความฝันของเธอ
“ชอบบ้านในหนังเรื่อง Sense and Sensibility เห็นแล้วรู้สึกว่าเป็นบ้านในฝัน ประดับประดาด้วยดอกไม้ มีเฟอร์นิเจอร์ที่ให้ความสุนทรีย์ ความคลาสสิก แต่สมัยก่อนพวกเฟอร์นิเจอร์แบบนี้มันจะราคาแพงมาก ในบ้านเราคนนำเข้ามาน้อย ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีคนนำเข้ามาขายมากขึ้น ทำให้ราคามันถูกลง อีกอย่างเราซื้อบ้านที่สร้างไม่เสร็จแล้วมารีโนเวตใหม่ ก็ช่วยประหยัดเงินได้มาก เอาเงินที่เหลือมาแต่งบ้านดีกว่า”
บ้านสร้าง ไม่เสร็จหลังที่ว่ามีพื้นที่ถึง 160 ตารางวา มีหลังบ้านที่สามารถปลูกสวนสไตล์อังกฤษได้แบบสบายๆ ติดคลองลำพะอง ฝั่งตรงข้ามเป็นทุ่งนาสีเขียว ซึ่งพี่อุ๊เลือกที่จะอยู่นอกเมืองเพราะอยากใช้ชีวิตกับธรรมชาติ และได้พักผ่อนจริงๆ โดยกระบวนการเติมความฝันของพี่อุ๊ให้เป็นจริง ได้คุณปิ๊ก-พัทธ์ธีรา ฐานุพงศ์ณัฐชา สถาปนิกเพื่อนซี้มาช่วยรีโนเวตบ้านให้ ส่วนสวนสไตล์อังกฤษ แน่นอนหนีไม่พ้นคุณวิทย์-ศิริวิทย์ ริ้วบำรุง จาก Little Tree
“ย้ายมาอยู่ชานเมืองเพราะเรามีลูก อยู่ตรงนี้สิ่งที่ได้คืออากาศบริสุทธิ์ มีพื้นที่ให้เด็กๆ วิ่งเล่น ตัวเราก็สามารถใช้เวลาในการพักผ่อนหย่อนใจ มีความสุนทรีย์มากขึ้น ปลูกผักสวนครัวไว้ทาน หรือปลูกดอกไม้เอาไว้ใช้ให้ดูสวยงาม คนทำงานเหนื่อยๆ มาเจอก็ทำให้มันผ่อนคลาย รู้สึกมันมีพลังในการทำมาหากินต่อไป”
ความเป็นวินเทจที่ผสมผสานระหว่างยุโรปกับเอเชีย ภายในบ้านโทนสีขาวเป็นหลัก ปูพื้นด้วยหินอ่อน กระเบื้องสีขาวโมเสกกรุผรัง เพิ่มลวดลายตรงบัวฝ้าเพดาน เน้นการเปิดโล่ง ไม่มีผนังกั้นระหว่างพื้นที่ใช้สอยแต่ละส่วน แต่ใช้การจัดวางเฟอร์นิเจอร์เป็นตัวแบ่งพื้นที่แทน ตั้งแต่เริ่มเข้ามาในบ้านจะเห็นมุมชั้นวางตู้ไม้คลาสสิกด้านบนวางด้วยเชิง เทียน แจกันดอกไม้ นับเป็นจุดดึงดูดสายตาแก่แขกผู้มาเยือน ด้านซ้ายมือเป็นมุมรับแขกโดดเด่นด้วยโซฟาและเก้าอี้ขนาดใหญ่ ลึกเข้าไปเป็นห้องดูหนัง และทำกิจกรรมบันเทิงอื่นๆ
ส่วนอีกด้านของบ้านเป็นมุมทานข้าวที่เชื่อมต่อกับครัว เปิดมุมมองเห็นสวนหลังบ้านได้ชัดเจน ขยับขึ้นไป ด้านบนตกแต่งด้วยงานศิลปะ ภาพวาดอยู่ตามบันไดราวกับเดินอยู่ในแกลเลอรี ชั้นสองเป็นห้องนอนของพี่ อุ๊ที่ดูอลังการไม่ใช่เล่นจากเตียงสีเขียวอ่อน มีภาพวาดดอกไม้สวยงาม พร้อมกับมีมุมนั่งเล่น สามารถมองออกไปยังสวนได้เต็มตา โดยการออกแบบให้หน้าต่างสูงกว่าปกติ ถัดเข้าไปเป็นมุมอ่านหนังสือ ที่ยังคงมีรูปวาดตกแต่งอยู่เช่นเคย ทั้งหมดนี้อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยหากใครเดินสำรวจบ้านพี่อุ๊ก็คือจะมีพรม เปอร์เซียอยู่บนพื้นในทุกมุมของบ้าน
“มีความสุข เราทำความฝันให้เป็นความจริง ได้อยู่บ้านในแบบที่อยากได้ เราเองก็อยากเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆ ด้วยว่า เราสามารถทำบ้านสวยได้ อาจจะไม่ต้องแพงมากนัก ขอแค่คุณยังมีพลังอยู่ เพราะคนสมัยนี้บางครั้งท้อแท้กับการมีบ้านสักหลังเป็นเรื่องยาก ไกลเกินเอื้อม เลยอยากเป็นกำลังใจให้คนรุ่นใหม่ได้ทำตามความฝันของตัวเอง โดยไม่ต้องเป็นหนี้มากมาย พยายามศึกษาหาข้อมูล ใจเย็นๆ ไม่ต้องรีบ เก็บเงินให้ได้ ตั้งเป้าไว้จะรีโนเวตบ้าน หรือไม่ก็ค่อยๆ ทยอยทำไปเรื่อยๆ”