CORO FIELD / INTEGRATED FIELD
ไลฟ์สไตล์ฟาร์มมิ่งสไตล์ญี่ปุ่นของเกษตรกรหัวใจสีเขียว
Text: พีรยา เชื้อสุนทรโสภณ
Photo: เปี่ยมพล จันทร์เปี่ยม, พุทธิพงศ์ ศรีสุวรรณ
จากคอลัมน์ Green Space – Daybeds 162 ฉบับมีนาคม 2559
การมีรากฐานที่มั่นคงจะทำให้ทุกสรรพสิ่งเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ สำหรับต้นไม้แล้วก็คือดิน แต่สำหรับมนุษย์แล้วก็คือครอบครัวที่หล่อหลอมให้ 2 หนุ่มพี่น้อง คุณพอร์ช-มิตรดนัย สถาวรมณี และ คุณพีท-พันดนัย สถาวรมณี ลูกชายเจ้าของโรงงานผลิตปุ๋ยในจังหวัดราชบุรี ได้สัมผัสโลกของการทำการเกษตรอย่างแท้จริง จนพัฒนามาเป็นธุรกิจไลฟ์สไตล์ฟาร์มมิ่งในสไตล์ญี่ปุ่นที่ฮิตที่สุดในเวลานี้
“Coro Field” ชื่อนี้มีที่มา แน่นอนว่าหนึ่งคือสารที่พืชใช้สังเคราะห์แสง (Chloraphyll) และสองเมื่อแยกเป็นสองคำ คำว่า Coro ในภาษาญี่ปุ่น หมายถึง เวลา เพื่อให้คนที่มา ได้ดื่มด่ำกับการใช้จังหวะชีวิตที่ช้าลง ส่วนคำว่า Field สื่อถึงสนามกว้างๆที่มาพร้อมอิสรภาพที่จะวิ่งเล่นได้อย่างอิสระ
“เราอยากให้ที่นี่เป็นที่ที่คนมาแล้วอยากทำอะไรก็ทำ” คุณพอร์ชบอกความตั้งใจ “จะถอดรองเท้าเดิน หรืออะไรก็ได้ ให้ที่นี่เป็นเหมือนสถานที่ที่คนเดินทางมาได้กดปุ่มรีเฟรชชีวิตตัวเองได้ เหมือนได้มาแล้วมีพลังกลับไป”
เมื่อก้าวเท้าเข้าเขตแดนโคโรฟิลล์แล้ว สิ่งที่สะดุดสายตา นอกจากนานาพันธุ์ไม้สีเขียวละลานตาแล้ว คือเรือนกระจกสีขาวที่เป็นดั่งขุมทรัพย์ของกระเพาะอาหาร “Coro Cafe” แหล่งรวบรวมสารพันเมนูเด็ดทั้งของคาวและหวาน จากไอเดียของเชฟ Blackitch Artisan Kitchen สุดยอดเชฟทีมชาติไทยที่ลงมือสร้างสรรค์เมนูจากผลผลิตทั้งหมดของฟาร์ม นอกจากนี้ยังมี ‘Coro Market’ ที่สามารถเลือกซื้อผลผลิตและผลิตภัณฑ์ต่างๆเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านไปได้อีกด้วย
การออกแบบพื้นที่ทั้งหมดได้สถาปนิกจาก IF (Integrated Field) เป็นผู้ออกแบบพื้นที่กว่า 104 ไร่ ในดีไซน์ที่เรียบง่าย สะอาด และสว่างในโทนสีขาวแซมเขียว ซึ่งในเฟดแรกนี้ได้แบ่งเป็นอีกหลายโซนให้ได้ร่วมกิจกรรมกันไม่ว่าจะเป็น ‘Coro Me’ โซน DIY ตกแต่งต้นไม้ด้วยหินกรวด ทรายสี และสัตว์เซรามิก ก่อนจะรับอุปถัมภ์ต้นไม้นั้นกลับบ้านไป คุณพอร์ชอธิบายว่า “ที่ผมไม่เรียกว่าซื้อต้นไม้เพราะอยากให้คนที่รับอุปการะไปคิดว่าตัวเองเป็นพ่อแม่ ก่อนหน้านี้เราเป็นพ่อแม่เขา ตอนนี้คุณกำลังอุปการะเด็กคนนี้ไปนะ คุณต้องสัญญาว่าจะดูแลเขาให้ดีที่สุด ผมไม่อยากให้คนเอาต้นไม้ไปแล้วเลี้ยงแบบปลาทอง ที่ซื้อไปแปบนึงแล้วมันว่ายกรรเชียง”
ก่อนจะมาสะพายกระเป๋าเครื่องมือชาวสวน แล้วก้าวสู่โซน ‘Coro Garden’ กิจกรรม Grow&Harvest ภายใต้คอนเซปต์ของการรู้จักให้ และการเรียนรู้วิถีเกษตรกรรม ด้วยการทดลองปลูกผักสลัดออแกนิก ที่มีการนำไปบริจาคให้คนที่ต้องการเดือนละครั้ง และการเก็บเกี่ยวมะเขือเทศฮอลแลนด์สายพันธุ์มินิ โกลเด้นพลัม และมาร์เบิ้ลเรด มะเขือเทศสีแดงและเหลืองรสชาติหวานกรอบ ที่ไม่สามารถหาทานได้ที่ไหนอีกแล้วในอาเซียน
ถัดมาเข้าสู่การทัวร์ชมสวนเมลอน ‘Coro House’ ระบบโรงเรือนจากประเทศอิสราเอล ภายในกรีนเฮ้าส์ขนาดใหญ่ที่ควบคุมการทำงานด้วยคอมพิวเตอร์ CoroBrain จากส่วนกลางเพียงเครื่องเดียว ซึ่งเมื่อผ่านการฆ่าเชื้อโรคเพื่อป้องกันการติดโรคที่ติดตัวไปสู่ต้นไม้แล้ว ก็มาทำความรู้จักเมลอนของที่นี่กัน
ฮอกไกโดเมลอนจากบ้านเกิดที่เมืองฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น สายพันธุ์โทมิ ลักษณะจะมีเปลือกสีทอง เนื้อสีเขียว ซึ่งต้นเมล่อนจะมีอายุเฉลี่ย 3 เดือนต่อ 1 ต้น ต่อ 1 ลูก “พวกพันธุ์เรานำเข้ามาหมด ข้อดีของพวกผมคือเราบีบเมล็ดพันธุ์เองได้ อย่างผมชอบรสชาติ สีเขียว และความหอมของเมลอนลูกนี้ แล้วผมชอบลายของเมลอนอีกลูก ผมสามารถบีบข้อดีของทั้งหมดให้กลายมาเป็นพันธุ์ใหม่ได้ ซึ่งต้นไม้ทั้งหมดในโครงการต้องผ่านการเพาะต้นกล้าก่อนแล้วค่อยย้ายไปไม่ว่าจะอยู่ข้างนอกหรือข้างในก็ตาม” คุณพอร์ชกล่าว
ระบบกรีนเฮ้าส์ไม่ได้พัฒนามาเพื่อปลูกเมลอนอย่างเดียว แต่พัฒนาขึ้นเพื่อให้สามารถปลูกอะไรก็ได้ ด้วยการเอาปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ทั้ง ดิน ฟ้า อากาศ เข้ามาอยู่ในสภาวะที่ทีมงานสามารถควบคุมได้ โดยเฉพาะแมลง ซึ่งจะช่วยยืดอายุต้นไม้ให้อยู่ได้นานยิ่งขึ้น
เบื้องหน้าที่เห็นสวยงาม แต่ความแข็งแกร่งอยู่ที่เรื่องราวหลังบ้าน พื้นที่เบื้องหลังฟาร์มล้วนเต็มไปด้วยมันสมองและความทุ่มเทใส่ใจจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่คอยดูแลอีกกว่า 12 แปลง รวมถึงโรงเรือนเพาะปลูกผัก ที่ไม่ได้มีเพียงแค่เมลอน หรือมะเขือเทศเท่านั้น ยังมีมันม่วง ถั่วแระ และอีกมากมาย รวมทั้งยังมีโรงเรือนอนุบาลต้นกล้า โรงงานผลิตปุ๋ย ศูนย์ควบคุมการเพาะปลูกด้วยระบบคอมพิวเตอร์ (Coro Brain) และถังพักน้ำแร่ที่บังเอิญได้มาจากการขุดน้ำบาดาลมาใช้
“ที่นี่เรามีกฏเหล็กห้ามคนสวนเรียกต้นไม้ว่ามันเด็ดขาด ตอนทำสวนต้องคอยคุยกับต้นไม้ไปด้วย เราติดลำโพงแล้วเปิดเพลงโมสาร์ทให้ฟัง เราเชื่อว่าสิ่งมีชีวิตทุกอย่างเป็นจิตและดวงวิญญาณจริงๆ ที่ชาตินี้มาเป็นอย่างนี้ ถ้าเราดูแลเขาเหมือนดูแลลูกค้าเราทุกคน ผมว่าเขารู้สึกได้ไม่ว่าเขาจะออกมาดีกว่าหรือไม่ แต่เราทำแล้วสบายใจก็โอเค เพราะเราไม่ได้แค่ปลูก แต่เราสร้างกำลังใจ”
“ผมคิดว่าเกษตรกรรมเมืองไทยมันกำลังจะตาย จากหลากหลายปัจจัย ซึ่งจริงๆแล้วการเกษตรเป็นสิ่งที่เจ๋งกว่านี้ได้ เพียงแค่คุณใส่ไอเดียเข้าไป พ่อแม่คุณทำนามา 100 ไร่ ไม่ได้แปลว่าคุณต้องทำนาแบบเดิมไปอีก 50 ปี คุณอาจทำแค่ไร่เดียวก็ได้แล้วไร่ที่เหลือจะทำอะไรก็สุดแล้วแต่ ขึ้นอยู่กับแต่ละคนประสบการณ์ชีวิตตั้งแต่เกิดจนโต เขามีมุมมองแบบไหน แล้วเอาสิ่งนี้ใส่เข้าไปผมว่ามันจะเจ๋งมาก”
มิตรดนัย สถาวรมณี
แปลงผักสลัดออร์แกนิกกลางแจ้งที่เปิดโอกาสให้ผู้คนมาเยี่ยมชม สัมผัส และทำความรู้จักกับพืชผักต่างๆ และสามารถทดลองปลูกและเก็บเกี่ยวด้วยตัวเอง
แปลงผักสลัดออร์แกนิกกลางแจ้งที่เปิดโอกาสให้ผู้คนมาเยี่ยมชม สัมผัส และทำความรู้จักกับพืชผักต่างๆ และสามารถทดลองปลูกและเก็บเกี่ยวด้วยตัวเอง
ผักสลัดออร์แกนิก
เยี่ยมชม สัมผัส และทำความรู้จักกับพืชผักต่างๆ และสามารถทดลองปลูกและเก็บเกี่ยวด้วยตัวเอง
ต้นมะเขือเทศออกผลให้เราได้เชยชม
แปลงปลูกมันเทศญี่ปุ่น ส่วนหนึ่งของ Coro Garden แปลงผักออร์แกนิกพื้นที่กว้างขวางที่สุดในพื้นที่ 104 ไร่ ของ Coro Field
‘Coro House’ ระบบโรงเรือนจากประเทศอิสราเอล ภายในกรีนเฮ้าส์ขนาดใหญ่ที่ควบคุมการทำงานด้วยคอมพิวเตอร์ CoroBrain
โรงเรือนเพาะปลูกเมลอนที่ทันสมัยที่สุดในอาเซียน ปลูกเมลอนเกรดเอ ควบคุมคุณภาพโดยต้องสวมชุดคลุมฆ่าเชื้อและมีเจ้าหน้าที่พาเข้ามชม
โรงเรือนเพาะปลูกเมลอนที่ทันสมัยที่สุดในอาเซียน ปลูกเมลอนเกรดเอ ควบคุมคุณภาพโดยต้องสวมชุดคลุมฆ่าเชื้อและมีเจ้าหน้าที่พาเข้ามชม
คุณพอร์ช พาเราเดินชมและอธิบายขั้นตอนการปลูกต้นไม้ตลอดทั้งโครงการในครั้งนี้ด้วยตัวเอง
‘Coro Me’ โซน DIY ตกแต่งต้นไม้ด้วยหินกรวด ทรายสี และสัตว์เซรามิก
Contact: 117 หมู่ 5 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี เปิดยริการทุกวัน 9.00-17.00 น. โทร. 0-2691-1939, 09-2569-4791 หรือ www.corofield.com, FB: corofieldTH
