“ชาเนลร่วมเฉลิมฉลองให้กับผลงานของอภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล”

 

 

ชาเนลร่วมเฉลิมฉลองให้กับผลงานของอภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล ผู้กำกับภาพยนตร์ที่นำเสนอผลงานสร้างสรรค์ที่ทำให้ผู้ชมได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ในแง่ของเวลา ความทรงจำ และสิ่งที่จับต้องไม่ได้ ผ่านงานกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นในเทศกาลหนังทดลองครั้งที่ 7 (BEFF7)  ผลงานของอภิชาติพงศ์นั้นเป็นที่ทราบกันดีว่ามีความสามารถอันลึกซึ้งในการทำให้เส้นแบ่งระหว่างความจริงกับความฝันนั้นพร่าเลือน และทำให้ผู้ชมได้คิดไตร่ตรองอย่างลึกซึ้งและสำรวจความหมายแห่งการดำรงอยู่ผ่านงานศิลปะ และในงานเทศกาล BEFF7 นี้ ชาเนลได้ให้การสนับสนุนกิจกรรมสำคัญ 3 รายการด้วยกัน นั่นคือ การดื่มด่ำกับประสบการณ์เสมือนจริงกับนิทรรศการ A Conversation with the Sun (VR), งานเลี้ยงฉลองในบรรยากาศส่วนตัวให้กับผลงานของอภิชาติพงศ์ในการส่งเสริมภาพยนตร์ทดลอง และสุดท้ายคือการแสดง “บทสนทนา :ภาพสุดท้ายคล้ายหนัง” (An Encounter: The Last Thing You Saw That Felt Like a Movie) ที่นำเสนอโดยทิลดา สวินตัน ผู้ร่วมงานกับอภิชาติพงศ์มาอย่างยาวนานและยังเป็นแอมบาสเดอร์ของแบรนด์ชาเนลอีกด้วย

 

 

A Conversation with the Sun (VR)

วันศุกร์ที่ 24 มกราคม เป็นการเปิดตัวนิทรรศการ A Conversation with the Sun (VR) ครั้งแรกด้วยการสนับสนุนจากชาเนล โดยกิจกรรมนี้เป็นการมอบประสบการณ์แบบสมจริงในรูปแบบมัลติมีเดีย ซึ่งผสมผสานเทคโนโลยีเสมือนจริง (VR) การแสดง และภาพเคลื่อนไหวเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ โดยผลงานนี้นำเสนอ ณ วัน แบงค็อก ฟอรั่ม เพื่อนำผู้ชมเข้าสู่โลกแห่งการสำรวจ
เชิงสมาธิว่าด้วยแสง ความทรงจำ และวัฏจักรแห่งการดำรงอยู่ งานศิลปะจัดวางนี้ยังได้รับการเสริมให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นด้วยท่วงทำนองเพลงอันลุ่มลึกจากฝีมือการประพันธ์โดย ริวอิจิ ซากาโมโตะ (Ryuichi Sakamoto) ศิลปินชาวญี่ปุ่นผู้ล่วงลับไปแล้ว อันเป็นการช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับประสบการณ์ที่สอดประสานด้วยท่วงทำนองเพลงอิเล็กทรอนิกส์และเพลงคลาสสิก นอกจากนี้
คัตสึยะ ทานิกุจิ (Katsuya Taniguchi) ศิลปินชาวญี่ปุ่นด้านสื่อดิจิตอลภาพเคลื่อนไหว ก็ช่วยเสริมภูมิทัศน์ด้าน VR เพื่อสร้างการมีปฏิสัมพันธ์กันอย่างมีพลวัตระหว่างแสง เงา และความเคลื่อนไหว เพื่อยกระดับประสบการณ์ของประสาทสัมผัสโดยรวมก่อนหน้านี้ นิทรรศการนี้เคยได้รับการเปิดตัวในงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ ไทยแลนด์ เบียนนาเล่ ที่จังหวัดเชียงราย ด้วยการสนับสนุนจากชาเนลเช่นกัน และการนำเสนอนิทรรศการนี้อีกครั้งในกรุงเทพฯ ก็เป็นการเน้นย้ำถึงพันธกิจที่มุ่งมั่น
ของแบรนด์ในการสนับสนุนศิลปะร่วมสมัยและบทสนทนาทางวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่อง

การเฉลิมฉลองความคิดสร้างสรรค์

วันศุกร์ที่ 24 มกราคม ชาเนลจัดงานฉลองที่บางกอก คุนส์ฮาเลอ (Bangkok Kunsthalle) เพื่อยกย่องผลงานของอภิชาติพงศ์และการนำเสนอนิทรรศการ A Conversation with the Sun (VR) ของเขาในกรุงเทพฯ โดยในงานที่จัดขึ้นช่วงหัวค่ำนี้ ยังมี แขกคนสำคัญมาเข้าร่วมด้วยมากมาย รวมถึงแอมบาสเดอร์ และ เพื่อนคนสนิทของแบรนด์ อาทิ ทิลดา สวินตัน, ชุติมณฑน์         จึงเจริญสุขยิ่ง, รีเบคก้า อาร์มสตรอง, ธิติยา จิระพรศิลป์, อชิรญา นิติพน, วาเลนติน่า จาร์ดุลโล, ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ รวมทั้งบรรดาผู้ที่เคยร่วมงานกับอภิชาติพงศ์ ทั้งผู้สร้างภาพยนตร์และบรรดาศิลปินที่ได้สร้างสรรค์ผลงานที่น่าสนใจในแขนงต่างๆ การมารวมกันของบุคคลเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบที่สำคัญที่อภิชาติพงศ์มีต่อการพัฒนาภาพยนตร์ทดลอง และยังเป็นการเฉลิมฉลองให้กับเครือข่ายของเหล่าผู้ริเริ่มสร้างสรรค์ที่ยังคงช่วยกันกำหนดและขยายขอบเขตของภาพยนตร์ไทยและภาพยนตร์ที่ได้รับการเผยแพร่ไปทั่วโลก รวมทั้งชุมชนศิลปินดังกล่าว

บทสนทนา: ภาพสุดท้ายคล้ายหนัง (An Encounter: The Last Thing You Saw That Felt Like a Movie)

วันเสาร์ที่ 25 มกราคม เปิดการแสดง “บทสนทนา : ภาพสุดท้ายคล้ายหนัง” ที่สนับสนุนโดยชาเนล และนำเสนอโดยอภิชาติพงศ์และทิลดา สวินตัน โดยประกอบด้วยกิจกรรม 2 ส่วนที่น่าสนใจ นั่นคือ การแสดงสดโดยการกำกับของอภิชาติพงศ์ และถ่ายทอดโดยสวินตัน ในรูปแบบการแสดงบนเวทีที่ทรงพลังเพื่อถ่ายทอดวิสัยทัศน์ของเขาที่มีต่อภาพยนตร์ หลังจากจบการแสดงจะเป็นการเสวนาที่ดำเนินรายการโดยก้อง ฤทธิ์ดี และมีอภิชาติพงศ์และทิลดามาร่วมนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการทำงานสร้างสรรค์ร่วมกันมายาวนาน ความร่วมมือที่มีลักษณะเฉพาะนี้ทำให้ผู้ชมได้มีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งในผลงานภาพยนตร์ของอภิชาติพงศ์ที่มีลักษณะเป็นการสำรวจเชิงทดลองและเป็นศิลปะการสนับสนุนงานกิจกรรมเหล่านี้โดยชาเนล สะท้อนถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของแบรนด์ที่จะส่งเสริมบทสนทนาทางวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ที่ขยายขอบเขตออกไป ความทุ่มเทที่มีต่อวงการภาพยนตร์ที่ขยายตัวในประเทศไทยนี้ เริ่มต้นขึ้นจากงาน Cinema for All ในงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ ไทยแลนด์ เบียนนาเล่ ปี 2023 ซึ่งมีการจัดฉายภาพยนตร์จากคลังภาพยนตร์และภาพยนตร์ที่กำลังสร้างชื่อในปัจจุบัน ควบคู่ไปกับพาวิลเลียนต่างๆ ที่เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปที่สนใจได้สัมผัสกับโลกของภาพยนตร์ได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น และแสดงถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของชาเนลที่ต้องการบ่มเพาะศิลปินและผู้สร้างภาพยนตร์ รุ่นใหม่ๆ แบรนด์ชาเนลยังคงสานต่อความปรารถนาของกาเบรียล ชาเนลในการส่งเสริมวิสัยทัศน์ทางศิลปะที่กล้าหาญ และยังคงให้การยกย่องพลังแห่งภาพยนตร์และศิลปะที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้

 

หมายเหตุถึงบรรณาธิการ

เกี่ยวกับศิลปะและวัฒนธรรมของชาเนล

กองทุนวัฒนธรรมของชาเนล (CHANEL Culture Fund) ได้เชื่อมโยงนักสร้างสรรค์และนักคิดเข้าด้วยกันอย่างมีชีวิตชีวา
เพื่อพัฒนาแนวคิดที่หล่อหลอมวัฒนธรรมทั่วโลก โปรแกรมหลักของกองทุนนี้ประกอบด้วยพันธมิตรด้านศิลปะ (Art Partners) ของชาเนล ซึ่งเป็นสถาบันต่างๆ ที่ผู้นำได้รับการสนับสนุนให้พัฒนาโครงการริเริ่มที่แปลกใหม่แบบระยะยาว ซึ่งจะนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาสู่ภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรม รางวัล CHANEL Next Prize เป็นการยกย่องศิลปินและผลักดันความสำเร็จในอนาคตผ่านการเข้าถึงแหล่งข้อมูลและการให้คำปรึกษาแก่ศิลปิน ตลอดจนพอดแคสต์ CHANEL Connects ที่ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้แก่ผู้นำทางความคิดจากสาขาวิชา รุ่น และภูมิศาสตร์ต่างๆ เพื่อรับมือกับประเด็นปัญหาที่สำคัญในยุคของเรา กองทุนวัฒนธรรมของชาเนลส่งเสริมความกล้าหาญในการสร้างสรรค์เพื่ออนาคตที่ดีกว่า และต่อยอดศตวรรษแห่งความมุ่งมั่นต่องานศิลปะ ตั้งแต่ภัณฑารักษ์หน้าใหม่จาก MCA เมืองชิคาโก ไปจนถึงนักนิเวศวิทยาชั้นนำจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะ Leeum ในกรุงโซล และตั้งแต่ศิลปินผู้พลิกโฉมวงการที่ Venice Biennale ไปจนถึงผู้กำกับที่เก่งที่สุดจาก British Film Institute

เกี่ยวกับงานเทศกาลหนังทดลองกรุงเทพฯ (BEFF)

เทศกาลหนังทดลองกรุงเทพฯ (Bangkok Experimental Film Festival หรือ BEFF) ได้รับการก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1997 โดยกฤติยา กาวีวงศ์ และอภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล เพื่อส่งเสริมการสร้างภาพยนตร์ทดลองและภาพยนตร์อิสระในเมืองไทย รวมทั้งประเทศในเเถบภูมิภาคเอเซีย งานเทศกาลนี้มีเป้าหมายที่จะเผยแพร่ผลงานของศิลปินไทยสู่เวทีนานาชาติ โดยมุ่งเน้นที่การนำเสนอภาพยนตร์ทางเลือกที่แตกต่างจากภาพยนตร์และผลงานศิลปะกระแสหลัก ด้วยการผสานรวมความคิดสร้างสรรค์จากทั้งศิลปิน
คนไทยและศิลปินชาวต่างชาติ  สำหรับเทศกาลหนังทดลองกรุงเทพฯ ในครั้งนี้ (ที่จัดขึ้นในรอบ 12 ปี หลังจากการจัดงานเทศกาลครั้งล่าสุดในปี 2013) อยู่ภายใต้ธีม “ไร้ที่ มีทาง” (Nowhere Somewhere) เพื่อเชิญชวนผู้ชมมาสำรวจประเด็นเกี่ยวกับพื้นที่ อัตลักษณ์ และธรรมชาติของการดำรงอยู่ที่เปลี่ยนแปลง

 

 

เกี่ยวกับ CINEMA FOR ALL

CINEMA FOR ALL คือโครงการส่งเสริมการเผยแพร่ภาพยนตร์ที่หลากหลาย มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เรื่องราวใหม่ๆ และ
การนำเสนอในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น โดยการส่งเสริมให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงภาพยนตร์ที่มีความหลากหลาย (Expanded Cinema) ได้ง่ายขึ้น และมีวิสัยทัศน์ในการส่งเสริมศิลปินและผู้สร้างภาพยนตร์รุ่นใหม่ๆ โครงการยังมีจุดมุ่งหมายที่จะทำให้ผู้คนกลับมาสนใจภาพยนตร์ รวมทั้งการนำเสนอภาพยนตร์ต่อสาธารณะในรูปแบบใหม่ๆ ซิเนม่า ฟอร์ ออล พาวิเลียน (CINEMA FOR ALL Pavilion) ในงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ 2023 เป็นเสมือนศาลาแสดงผลงานของนิทรรศการเบียนนาเล่ที่เลือกสรรโดยจอช ซีเกล (Josh Siegel) ภัณฑรักษ์ผู้ดูแลด้านภาพยนตร์ของพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ MoMa
โดยเป็นการร่วมมือกับสองผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของไทยแลนด์ เบียนนาเล่ คือ กฤติยา กาวีวงศ์ และฤกษ์ฤทธิ์ ตีระวนิช รวมทั้ง
ผู้กำกับภาพยนตร์ อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล พาวิลเลียนจัดฉายภาพยนตร์เก่าๆ อันทรงค่าที่ได้รับการเก็บรักษาไว้ และภาพยนตร์ใหม่ร่วมสมัยจากทั่วโลก ซิเนม่า ฟอร์ ออล พาวิลเลียนเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ CINEMA FOR ALL ที่ยังมีอีกโครงการหนึ่ง
ที่น่าสนใจโดยการนำเสนอผลงานผ่านเทคโนโลยีการจำลองโลกเสมือนจริง (Virtual Reality) ที่ดำเนินการโดยอภิชาติพงศ์
วีระเศรษฐกุล ภายใต้ชื่อว่า A CONVERSATION WITH THE SUN (VR)

 

Leave A Comment