CH HOUSE
“บ้านผูกพัน ร้อยรวมธรรมชาติและครอบครัว”
แม้ว่าฮานอย ที่เป็นเมืองหลวงของเวียดนามที่มีความหนาแน่นของประชากรมากที่สุดแห่งหนึ่ง ประสบปัญหาการจราจร มลพิษทางอากาศ ความเร่งรีบ แต่อย่างไรเสีย ชาวเวียดนามก็ยังคงให้ความสำคัญกับคำว่าครอบครัว ดังที่สะท้อนออกมาในการดีไซน์บ้าน CH House โดยเปลี่ยนตึกแถวเก่าให้กลายเป็นบ้านอาศัย ที่คิดมาเพื่อครอบครัว สาม gen ที่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข เนรมิตโดยทีมสถาปนิก ODDO Architects
สิ่งที่เป็นความท้าทายสำหรับการครีเอทสเปซของ CH House ก็คือการนำเอกลักษณ์ของบ้านตึกแถวตามแบบฉบับของเมืองฮานอยมาปรับประยุกต์เพื่อตอบโจทย์การออกแบบที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อนำจิตวิญญาณดั้งเดิมมาสู่ชีวิตสมัยใหม่ และในขณะเดียวกันก็ต้องสร้างพื้นที่ที่เต็มไปด้วยแสงธรรมชาติที่ได้คุณภาพ และให้แน่ใจว่ามีการระบายอากาศที่ flow ภายในบ้าน สำหรับฟังก์ชั่นการใช้งานของบ้าน แบ่งออกเป็น 2 โซนหลักๆ คือพื้นที่เชิงพาณิชย์สองชั้น และพื้นที่สำหรับครอบครัว พื้นที่ส่วนกลาง เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องสมุด ห้องรับประทานอาหาร และห้องครัว โดยจะจัดวางสเปซให้มีความสูงของเพดานที่อยู่ในระดับที่แตกต่างกันเพื่อสร้างพื้นที่ต่อเนื่องที่เปิดโล่ง ทำให้เกิดผนังที่มองไม่เห็น แต่แบ่งกั้นอาณาเขตของแต่ละห้องโดยที่ไม่ปิดทึบ เพื่อรักษาการสื่อสารในครอบครัวซึ่งกันและกันได้ง่ายขึ้น
บ้านหลังนี้ออกแบบให้พื้นที่เปิดโล่งได้อย่างลงตัว และให้ความรู้สึกกว้างขวางอย่างคาดไม่ถึง แม้ว่าความเป็นจริงจะมีโจทย์คือพื้นที่ที่จำกัด แต่ต้องทำให้มีพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกันในส่วนกลางของบ้านให้ได้ ซึ่งด้วยลักษณะเปิดโล่งนี้ที่ทำให้สมาชิกภายในบ้านสามารถปฏิสัมพันธ์กันได้ แต่เมื่อต้องการความเป็นส่วนตัวทุกคนก็สามารถแยกย้ายเข้าไปในห้องของตนเองได้อย่างมีอิสระ โดยที่ห้องนอนของคุณพ่อคุณแม่ และคุณตาคุณยายอยู่บริเวณชั้นล่างด้านในสุด ในขณะที่ห้องนอนของลูกทั้งสองห้องอยู่ที่ชั้นบน ติดกับโถงกลางบ้าน จึงทำให้ไม่รู้สึกตัดขาดจากส่วนอื่นๆ ในบ้านจนเกินไป สร้างความอบอุ่นได้อย่างแยบยล
ธรรมชาติเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ส่งผลดีต่อสุขภาพจิตของผู้อยู่อาศัย การพัฒนาไปอย่างรวดเร็วของฮานอยทำให้ผู้คนโหยหาพื้นที่สีเขียวเพื่อเยียวยาสุขภาพใจ นั่นคือเหตุผลที่การปลูกต้นไม้และพรรณไม้ภายในบ้านจึงมีความจำเป็นในการช่วยสร้างพื้นที่อยู่อาศัยที่เงียบสงบ และที่สำคัญก็เพื่อปลดปล่อยความเครียด ซึ่ง CH house ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่นั้น ที่เป็นบ้านของผู้อยู่อาศัยเพียงอย่างเดียว แต่ที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่พยายามสร้างผูกพัน และความเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์ และธรรมชาติ และมนุษย์ด้วยกันเอง ซึ่งในปัจจุบันคือสิ่งที่เมืองใหญ่อย่างฮานอยต้องการมากที่สุด
ที่มา: www.archdaily.com