BUN DUN JAI LEATHER & CRAFTS
“เรียบง่ายแต่มาก Passion ”
Text : Doowoper
Photo : Bun Dun Jai leather & crafts
งานเครื่องหนังตอบโจทย์ของใช้ในชีวิตประจำวัน เน้นความสวยฟินมีฟังก์ชั่น น้อมนำการใส่ใจเรื่องคุณภาพ ภายใต้การต่อยอด passion แบบไม่รู้จบ
ไม่แปลกอะไรที่คุณจะเห็นตำรวจเปลี่ยนอาชีพมาเป็นนักร้อง หรือเด็กเรียนจบแพทย์ดอดมาเป็นศิลปินวาดรูป (ฯลฯ) เพราะคนเราต่างมีเหตุผล มีความฝัน อยากจะทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ แต่เมื่อโอกาสมาถึงจะมีสักกี่คนเล่าที่กล้าคว้ามันและลงมือทำทันที
สำหรับที่มาของแบรนด์ Bun Dun Jai leather & Crafts จุดประกายมาจากช่วงวัยเด็กที่ ยิ้ม-ชุรีพร ปลัดกุล (ผู้ก่อตั้ง) เติบโตมากับครอบครัวที่รายล้อมด้วยช่างฝีมือ คุณปู่เป็นครูที่มีความสามารถพิเศษด้านงานไม้ เนรมิตได้ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ไปจนถึงการสร้างบ้านเป็นหลัง มีคุณป้าเป็นช่างตัดผ้า ทำให้เธอเห็นการสร้างแพทเทิร์นตัดชุดไทยสุดประณีตอยู่เป็นประจำ และหากมีวัสดุอุปกรณ์ที่เหลือใช้ ยิ้มก็จะนำมาลองทำโน่นนี่นั่นอยู่ตลอดเวลา
เมื่อโตขึ้น ยิ้มกลับหลงใหลความมีเสน่ห์ เท่ และคลาสสิกของงานเครื่องหนัง เธอจึงตั้งปณิธานว่าสักวันจะมีแบรนด์เป็นของตนเองให้ได้ แต่ความฝันก็ถูกพับเก็บไว้ในใจมาตลอดกว่า 10 ปี หลังเรียนจบและเธอทำงานเป็นนักเขียน (นิตยสารงานดีไซน์และตกแต่งบ้าน)
ทว่าระหว่างทาง เธอกลับไม่ย่อท้อ ยิ้มศึกษาเรื่องวัสดุอุปกรณ์ วิธีการและขั้นตอนการทำงานเครื่องหนังจากตำราและสื่อต่างๆ พร้อมกับเข้าคอร์สเรียน และลงทุนฝึกปรืออย่างจริงจังจนเชี่ยวมือ ก่อนตัดสินใจลาออกจากงานประจำ เปลี่ยนตัวตนมาเป็นนักออกแบบอย่างเต็มตัว พร้อมตั้งชื่อแบรนด์ว่า ‘บันดาลใจ’ (Bun Dun Jai leather & Crafts)
สำหรับสินค้าของแบรนด์นี้ ส่วนใหญ่เป็นของใช้ในชีวิตประจำวัน อาทิเช่น กระเป๋าสตางค์ กระเป๋าใส่บัตร กระเป๋าคลัช พวงกุญแจ ที่ใส่ปากกา ตลับสายวัด ฯลฯ ซึ่งเธอเองได้แรงบันดาลใจมาจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ รอบตัว นอกจากสร้างสรรค์ขึ้นใช้เองแล้ว ขณะเดียวกันก็ทำขาย เพราะอยากแบ่งบันงานดีดีที่ตัวเองตั้งใจทำให้กับผู้อื่นด้วย
ส่วนสิ่งที่เธอให้ความสำคัญที่สุดในเรื่องการออกแบบก็คือ ต้องเป็นสินค้าที่ใช้งานได้จริง มีความแข็งแรงและทนทานเป็นทุน (Practical and Durable) รวมถึงสอดแทรกรายละเอียดความสวยงามของเส้นสายอันอ่อนช้อยไว้ในตัวงาน
ที่สำคัญผลงานทุกชิ้นยังรับทำแบบ custom made มีบริการสแตมป์ชื่อ หรือแมทช์คู่สีหนังและสีด้ายหากลูกค้าต้องการ เพื่อเกิดเป็นงานที่มีเอกลักษณ์และตอบโจทย์ผู้เป็นเจ้าของได้มากที่สุด และด้วยความที่เธอสะสมปากกา Lamy ล่าสุดยิ้มจึงปิ๊งไอเดียคลอดผลงาน ‘ที่เสียบปากกาหนังแท้’ พร้อมสายคล้องคอขึ้นมา (เพราะเธอคิดว่าเมื่อมีปากกาสวยๆ ควรมีโอกาสได้โชว์กันบ้าง) โดยมีแนวคิดทำเป็นแอคแซสซอรีอย่างหนึ่ง ที่สามารถแมทช์กับการแต่งตัวได้ เพราะมีสีหนังให้เลือกกว่า 10 สี กระทั่งกลายเป็นไอเท็มสุดฮ็อตของเวลานี้ ที่มีออเดอร์เรียกเข้ามาไม่ขาดสายเลยทีเดียว
ซึ่งการสัมภาษณ์นักออกแบบคนนี้ ทำให้เราเชื่อว่า… งานดี/ไม่ดี ไม่ได้ขึ้นอยู่กับยอดแฟนเพจในเฟสบุ๊ค งานดี/ไม่ดี ไม่ได้อยู่ที่รางวัลกี่มากน้อยที่ได้รับ แต่งานที่แนวคิดบวกความตั้งใจดีต่างหาก ที่ทำให้ตัวงานนั้นเกิดการพัฒนาเป็นงานที่ดีจนได้รับความน่าสนใจ และเรามองเห็นสิ่งนั้นใน Bun Dun Jai leather & Crafts
