BANG SARAY HOUSE / JUNSEKINO ARCHITECT AND DESIGN

อบอุ่น สบาย เจือกลิ่นอายทะเล

Text: กรกฎ หลอดคำ
Photo: Spaceshift Studio
Architect: Junsekino Architect and Design

จากย่านในเมืองหลวงที่แออัด 2 ชั่วโมงคือระยะเวลาที่เจ้าของบ้านสามารถขับรถออกมารับบรรยากาศสบายๆ ริมทะเลของบ้านในจังหวัดชานเมืองที่ไม่ใกล้ไม่ไกลอย่างจังหวัดชลบุรี เหนือลอนทราย ปลายกลิ่นอายทะเล บ้านพักตากอากาศ 3 ชั้นของครอบครัวผาณิตวงศ์ ตั้งอยู่ในอาณาบริเวณส่วนตัว เพื่อให้สมาชิกหลบหนีจากความวุ่นวาย และใช้เวลาพักผ่อนร่วมกันเฉพาะสมาชิกในครอบครัว ในระยะเวลาที่ไม่นานเกินอึดใจ  สถาปัตยกรรมที่นักออกแบบมากฝีมือรังสรรค์ขึ้นบนผืนดินตั้งตระหง่านรอคอยครอบครัวใหญ่เพื่อมอบวันแสนสบายให้กับผู้เป็นเจ้าของ จูน เซคิโน สถาปนิกที่ฝากผลงานทั้งที่พักอาศัยและอาคารหลายรูปแบบ ได้แสดงให้เห็นอีกครั้งถึงความเข้าใจในบริบทและการจัดการพื้นที่ใช้สอย เพื่อให้สมาชิกต่างวัยในครอบครัวใหญ่ร่วมแชร์พื้นที่และประสบการณ์ภายใต้ชายคาเดียวกันอย่างเป็นสุข

ภายในบ้านที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยกว่า 2,250 ตารางเมตร บนพื้นที่ดินกว่า 9,200 ตารางเมตร ของคุณวิวัฒน์ ผาณิตวงศ์ ถูกออกแบบมาเพื่อให้รองรับความต้องการของครอบครัวที่มีสมาชิกทั้ง พ่อ แม่ ลูก 4 คน และสมาชิกรุ่นหลานที่กำลังจะตามมา เพื่อให้เป็นสถานที่รวมสมาชิกที่จะเพิ่มจำนวนขึ้นในอนาคต พื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้นตามลำดับ จึงต้องถูกจัดการให้พอเหมาะพอดีกับการมาเจอกันของสมาชิกต่างวัย การแบ่งสรรความเป็นส่วนตัวและพื้นที่ส่วนรวมในสัดส่วนที่พอเหมาะจึงเป็นปัจจัยแรกในคอนเซ็ปต์ของการออกแบบที่อยู่อาศัยเพื่อความสุขของสมาชิกทุกคน

ความสงบของชายหาดบางเสร่ ของอำเภอสัตหีบ เป็นชื่อเสียงที่ทำให้สถานที่เริ่มเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยว แม้จะไม่ได้โดดเด่นหวือหวาหรือพลุกพล่าน แต่เสน่ห์ของความเงียบสงบและเรียบง่ายก็เป็นสิ่งที่น่าดึงดูด นับจากชายหาดเข้ามาราว 1 กิโลเมตร ลมทะเลยังส่งกลิ่นอายพัดเข้าสู่พื้นที่บ้านพักตากอากาศอยู่กลายๆ เพื่อรับเอาบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์และตอบรับกับบริบท สถาปนิกวางบ้านพักให้อยู่ในตำแหน่งของแนวรับลม และจัดสรรพื้นที่ให้เกิดประโยชน์ทั้งสองด้านของบ้าน บ้านพักตากอากาศหลังนี้จึงเสมือนว่ามีหน้าบ้านสองฝั่ง และโปร่งสบายโดยที่ไม่มีด้านทึบตัน

การคลุมโทนที่พักอาศัยด้วยวัสดุธรรมชาติที่แสดงสีสันของตัวมันเอง ก็ทำให้ที่อยู่ไม่กวนสายตาอยู่สบาย วัสดุหลักๆ อย่างไม้และหิน กลมกลืนไปกับผนังสีขาว ให้บรรยากาศที่พักอาศัยที่อบอุ่น ในขณะเดียวกัน องค์ประกอบของหลังคาที่กินพื้นที่อยู่อาศัยกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ก็ถูกออกแบบให้บางและเบาที่สุด เพื่อลดทอนความใหญ่โต พื้นที่ใช้สอยใต้ฝ้าผืนใหญ่ ในบรรยากาศแสนสบาย จึงรับกับธรรมชาติที่แวดล้อมอยู่ 360 องศาอย่างลงตัว

ด้านทิศใต้ หน้าบ้านเปิดต้อนรับสมาชิกที่สัญจรเข้าสู่อาณาบริเวณและเข้าสู่พื้นที่จอดรถ ก่อนจะเข้าสู่พื้นที่ใช้งานภายในตัวบ้าน ในขณะเดียวกัน ด้านทิศเหนือนั้นก็ทำหน้าที่เป็นเหมือนพื้นที่พักผ่อนส่วนตัว ด้วยสวนเขียวโล่งกว้างที่เปิดออกสู่ธรรมชาติแวดล้อม รับลมและทิวทัศน์ ที่โอบล้อมอยู่ในอ้อมกอดของขุนเขา พื้นที่ใช้งานของบ้านส่วนใหญ่นั้นจะถูกยกขึ้นให้สูงกว่าระดับดิน เช่นทางเข้าบ้านหลักที่สมาชิกในครอบครัวต้องเดินขึ้นสู่ชั้นสองซึ่งเป็นส่วนใช้งานหลักก่อนเสมอ ส่งผลให้พื้นชั้นระดับดินของบ้านทำหน้าที่คล้ายชั้นใต้ถุนไปโดยปริยาย ซึ่งสถาปนิกได้ออกแบบให้กลายเป็นพื้นที่พักผ่อนชั่วคราวอีกแห่ง ที่สามารถเชื่อมต่อกับพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่นอกบ้าน พื้นที่ทั้งหมดของชั้นระดับดินจึงเชื่อมต่อลื่นไหลเป็นเนื้อเดียว พื้นที่สีเขียวนอกบ้านดึงธรรมชาติอันโล่งสบายเข้าสู่วิถีชีวิตของครอบครัวใหญ่ ที่สมาชิกทุกคนในบ้านสามารถใช้งานร่วมกันได้อย่างไม่มีเส้นกั้นของช่วงวัย โดยเฉพาะการใช้เป็นสนามกอล์ฟ กีฬาที่คนในครอบครัวชื่นชอบ สนามสีเขียวกว้างใหญ่พอจะใช้เป็นสนามกอล์ฟขนาดพาร์ 3 ให้สมาชิกใช้ซ้อมและออกกำลังกายได้อย่างเป็นส่วนตัว

องค์ประกอบของสถาปัตยกรรมหมุดหมายที่ตั้งของมันอย่างมีชั้นเชิง ผนังสูงที่ตั้งฉากกับพื้นดินโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ สถาปนิกกรุวัสดุธรรมชาติอย่างหินเพื่อมอบความอบอุ่นสบายให้กับองค์ประกอบของส่วนต้อนรับที่หันหน้าเข้าสู่สวนเขียวซึ่งเป็นเหมือนพื้นที่ใช้งานส่วนใหญ่ ก่อนจะเข้าสู่ตัวบ้าน สมาชิกต้องเดินขึ้นบันไดหน้าบ้านที่ลาดขึ้นสู่ส่วนใช้งานบนชั้น 2 ที่นำไปสู่ส่วนใช้งานหลักของบ้านที่เป็นเหมือนพื้นที่ส่วนกลาง อันได้แก่ ห้องรับแขก ส่วนรับประทานอาหาร ห้องทำงาน ที่ออกแบบให้เชื่อมต่อลื่นไหล เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับที่เมื่อก้าวออกสู่ระเบียงที่มองเห็นอาณาบริเวณของสวนเขียวภายนอก ก็จะพบกับสระว่ายน้ำสำหรับครอบครัว ที่ปกคลุมอยู่ด้วยบรรยากาศของธรรมชาติ พื้นที่ทั้งหมดของส่วนใช้งานร่วมกันจึงโล่งสบาย ให้ผู้ที่อยู่อาศัยทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันอย่างลงตัว เพื่อแจกจ่ายไปยังชั้นอื่นๆ บันไดชุดหลักกลางบ้าน ทำหน้าที่เชื่อมต่อพื้นที่ตั้งแต่ชั้น 1 ถึงชั้น 3 ซึ่งเมื่อสมาชิกก้าวขึ้นสู่ชั้นบนสุด ก็จะพบกับส่วนพักผ่อนส่วนตัวที่สถาปนิกออกแบบให้เป็นวิลล่า 2 ฝั่งที่แบ่งออกเป็นสัดส่วน ห้องนอนหลักทั้ง 4 ห้องที่ถูกแบ่งออกให้อยู่ใน 2 ฝั่งวิลล่า ถูกคิดจากความต้องการที่ไม่เหมือนกันของสมาชิกแต่ละคน พื้นที่ใช้งานของแต่ละห้องจึงมีเอกลักษณ์ด้วยสัดส่วนใช้งานที่ไม่เหมือนกัน ในขณะเดียวกัน ห้องแต่ละห้องก็แยกย่อยตัวเองออกจากทางสัญจรหลักรอบๆ เพื่อเพิ่มความสำคัญให้กับแต่ละอาณาเขตเมื่อถึงเวลาส่วนตัวของสมาชิกแต่ละคนกลมกลืนไปกับธรรมชาติ

แม้ว่าสถาปัตยกรรมสมาชิกใหม่ของบางเสร่จะมีขนาดของที่อยู่อาศัยที่มาก แต่การคลุมโทนที่พักอาศัยด้วยวัสดุธรรมชาติที่แสดงสีสันของตัวมันเอง ก็ทำให้ที่อยู่ไม่กวนสายตาอยู่สบาย วัสดุหลักๆ อย่างไม้และหิน กลมกลืนไปกับผนังสีขาว ให้บรรยากาศที่พักอาศัยที่อบอุ่น ในขณะเดียวกัน องค์ประกอบของหลังคาที่กินพื้นที่อยู่อาศัยกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ก็ถูกออกแบบให้บางและเบาที่สุด เพื่อลดทอนความใหญ่โต พื้นที่ใช้สอยใต้ฝ้าผืนใหญ่ ในบรรยากาศแสนสบาย จึงรับกับธรรมชาติที่แวดล้อมอยู่ 360 องศาอย่างลงตัว

หน้าบ้านด้านทิศใต้ เป็นส่วนต้อนรับจากทางเข้าที่ต่อเนื่องจากทางสัญจรภายนอก

บันไดภายนอก นำขึ้นไปสู่ห้องครัวที่แยกส่วนออกจากพื้นที่ใช้งานหลักในบ้าน ภาพบรรยากาศเมื่อเดินทางเข้าสู่อาณาบริเวณบ้าน อาคารแยกเป็นอาคารจอดรถและตัวบ้านหลัก ที่แวดล้อมอยู่ในขุนเขา เจือกลิ่นอายทะเลในอากาศ
ส่วนรับประทานอาหารในพื้นที่ส่วนกลางของบ้าน ต่อเนื่องกับส่วนรับแขก กรุด้วยผนังและประตูกระจกบานเลื่อน ที่ดึงเอาบรรยากาศภายนอกเข้าสู่บ้านทำให้บ้านโปร่งสบาย

บันไดทางขึ้นสู่ชั้นสองอันเป็นส่วนใช้งานกลางของบ้าน ตกแต่งด้วยไม้ให้ความรู้สึกอบอุ่นสบายเพื่อต้อนรับผู้มาเยือน

สระว่ายน้ำที่ต่อเนื่องจากระเบียงในส่วนใช้งานหลักชั้น 2 สร้างความต่อเนื่อง ลื่นไหลของบรรยากาศ เชื่อมต่อให้ความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของพื้นที่โดยภาพรวม

  บันไดขนาดใหญ่ที่หน้าบ้านด้านทิศเหนือ ต่อเนื่องกับสนามหญ้า กรุด้วยหินให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ และยังเป็นองค์ประกอบหลักที่ช่วยสร้างเอกลักษณ์ให้กับภาพรวมของบ้านอีกด้วย
พื้นที่บนชั้น 3 สถาปนิกออกแบบให้เป็นแบบกึ่งโอเพนแอร์ โดยมีหลังคาผืนใหญ่ปกคลุมอยู่บนระนาบเหนือศีรษะ ระเบียงทางเดินเชื่อมต่อไปยังห้องนอนต่างๆ ที่แบ่งอยู่อย่างเป็นสัดส่วน