BAAN KLANG MUANG CLASSE

บ้านกลางเมือง คลาสเซ่
ที่พักอาศัยรูปแบบซูปเปอร์ลักชัวรี่วิลล่า

photo: ภาพประชาสัมพันธ์

‘เอพี ไทยแลนด์’ นำเสนอ ‘บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ เอกมัย – รามอินทรา’ ซูเปอร์ลักชัวรี่วิลล่า 3 ชั้น เจาะกลุ่มลูกค้าครอบครัวเมืองระดับบน (A Segment) ที่ให้ความสำคัญกับความเป็นที่สุดของการใช้ชีวิตหรูหรา อบอุ่น ปลอดภัย และสมาร์ท สไตล์คนรุ่นใหม่ ซึ่งในครั้งนี้เอพีฉีกกรอบการออกแบบพื้นที่ด้วยนวัตกรรม ‘Multiverse Layouts’ รายแรกในเมืองไทย พร้อมด้วยวิสัยทัศน์ ‘AP Digital Community’ ที่ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย ทำงานร่วมกันกับอุปกรณ์ต่างๆ บนแพลตฟอร์ม  IoT (Internet of Things) โดยร่วมมือกับซัมซุง เปิดตัว ‘AP Intelligent Living’ ที่สุดของนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัย ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยของเครื่องใช้ไฟฟ้าซัมซุง เพื่อยกระดับรูปแบบการใช้ชีวิตของลูกค้าเอพีให้สะดวกสบายปลอดภัยยิ่งขึ้น

บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ คือโครงการที่พักอาศัยรูปแบบซูปเปอร์ลักชัวรี่วิลล่า 3 ชั้น เฟสที่ 1 จำนวนทั้งหมด 56 ยูนิต ภายใต้นวัตกรรมการออกแบบพื้นที่แบบ ‘Multiverse Layouts’ สร้างมิติให้กับพื้นที่ใช้สอยและการเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ 3 ชั้นอย่างไร้รอยต่อ สามารถตอบความต้องการการใช้ชีวิตที่หลากหลายของคน 3 ช่วงวัยในครอบครัว นอกจากนี้ยังมีการผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย ‘AP Intelligent Living’ ภายใต้วิสัยทัศน์ ‘AP Digital Community’ ยกระดับรูปแบบการใช้ชีวิตของลูกค้าเพื่อความสะดวกสบายและมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นตั้งแต่ 346 – 454 ตารางเมตร บนขนาดที่ดินประมาณ 52.6 – 79.8 ตารางวา ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท (ค่าส่วนกลาง 42 บาท/ตร.ว./เดือน) แบ่งออกเป็น

MONTE VILLA ซูปเปอร์ลักชัวรี่วิลล่า 3 ชั้น จำนวน 26 ยูนิต เริ่มต้น 61.6 ตารางวา ขนาดพื้นที่ใช้สอย 454 ตารางเมตร ประกอบด้วย 5 ห้องนอนใหญ่ 6 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น และที่จอดรถ 3 คัน

ETNA VILLA ซูปเปอร์ลักชัวรี่วิลล่า 3 ชั้น จำนวน 30 ยูนิต ที่ดินเริ่ม 52.6 ตารางวา ขนาดพื้นที่ใช้สอย 346 ตารางเมตร ประกอบด้วย 4 ห้องนอนใหญ่ 5 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น และที่จอดรถ 3 คัน

บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ ซูเปอร์ลักชัวรี่วิลล่า 3 ชั้น ภายใต้คอนเซปต์ ที่สุดของการใช้ชีวิต (THE PARAMOUNT LIVING) นำเสนอความต่างด้วยการพัฒนานวัตกรรมดีไซน์สุดล้ำภายใต้แนวคิด ‘Multiverse Layouts’ การออกแบบพื้นที่ที่คำนึงถึงรูปแบบการใช้ชีวิตในแนวตั้งและแนวนอนไปพร้อมๆ กัน สร้างมิติใหม่ให้กับพื้นที่ใช้สอยและการเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ 3 ชั้นได้อย่างไร้รอยต่อ ตอบสนองความต้องการใช้ชีวิตที่หลากหลายของคน 3 ช่วงวัยในครอบครัว

สำหรับแนวคิดการออกแบบโครงการ “บ้านกลางเมือง คลาสเซ่” ภายใต้นวัตกรรม Multiverse Layouts ซึ่งเป็นวิธีคิดในการออกแบบพื้นที่แนวตั้งและแนวนอนพร้อมกัน ก่อให้เกิดมิติด้านพื้นที่ใช้สอยและการใช้งานที่เชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ 3 ชั้น อีกทั้งยังสร้างความต่อเนื่องของสเปซภายนอกบ้านสู่ภายในบ้าน ตอบสนองความต้องการใช้ชีวิตที่หลากหลายของคน 3 ช่วงวัยในครอบครัว ซึ่งประกอบด้วย 5 แนวคิดหลัก ดังนี้

1. Multi-Dimension Space “เชื่อมต่อทุกมิติชีวิตให้เป็นหนึ่งเดียว” เพิ่มประสบการณ์รวมถึงการใช้พื้นที่หลากกิจกรรมบนพื้นที่เดียวกัน เช่น ห้องนั่งเล่นชั้น 1 (Veranda Atrium) พื้นที่พักผ่อนที่มีดีไซน์เชื่อมต่อในแนวตั้งด้วยเพดานสูง 5.5 เมตร และการเชื่อมต่อพื้นแนวนอนสู่สวนด้านหน้า และดีไซน์ความเป็นส่วนตัวโดยเพิ่มทางเข้าบ้าน 3 แบบ โดยสามารถเข้าจากห้องรับแขก จากห้องเตรียมอาหาร หรือบันไดหน้าบ้านสู่ห้องนั่งเล่นชั้น 2 ซึ่งประสบการณ์ที่ได้จะแตกต่างกันทั้งหมด
2. Perceptual Space “ขยายขอบเขตของบ้านให้ใหญ่ขึ้น” การออกแบบบ้านโดยไม่มีการทิ้งพื้นที่ให้เปล่าประโยชน์ เชื่อมพื้นที่หน้าบ้านและสวนมาเป็นส่วนหนึ่งของห้องภายใน ที่เสมือนการขยายขอบเขตของพื้นที่ห้องออกไปด้านนอก เช่น ห้องรับประทานอาหารสามารถเชื่อมมุมมองออกไปยังสวนหลังบ้านจนถึงแนวกำแพงบ้าน รวมถึงห้องรับแขกที่สามารถเชื่อมการใช้พื้นที่ออกไปยังลานเอนกประสงค์จนถึงแนวรั้วต้นไม้
3. Outside-In Space “พื้นที่สวนเดียวหลายมุมมอง” ที่บริเวณชั้น 3 ของบ้าน โดยสวนเล็กๆ นี้ได้ถูกออกแบบเป็น Courtyard และยังได้รับการออกแบบให้อยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นได้จากทุกชั้นภายในบ้าน รวมถึงสามารถมองต่อเนื่องขึ้นมาจากบริเวณโถงสูงของห้องรับแขก Height Ceiling เป็นพื้นที่ต่อเนื่องทางตั้ง นอกจากมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว สวนนี้ยังทำหน้าที่เป็นช่องแสง และช่วยเพิ่มการระบายอากาศภายในได้ เรียกได้ว่าเป็นสเปซที่ให้ความสำคัญกับความสงบ และความเป็นส่วนตัวไปพร้อมๆ กัน
4. Three Generational Space “พื้นที่ที่คำนึงถึงรูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย” เชื่อมความสัมพันธ์ของคน 3 ช่วงวัย คือ รุ่นปู่ย่า/ตายาย รุ่นพ่อแม่ และรุ่นลูก โดยทุกคนในครอบครัวมีพื้นที่ในการทำกิจกรรมร่วมกันมากขึ้น เปลี่ยนแนวคิดด้านข้อจำกัด ทำให้พื้นที่ตรงนี้กลายเป็นพื้นที่เชื่อมสายใยรัก ความอบอุ่น แต่ยังคงความเป็นส่วนตัวของคนในครอบครัว อาทิ Patio Family Living ห้องนั่งเล่นของครอบครัวที่ชั้น 2 ของบ้าน โดยเพิ่มเอกลักษณ์และความเป็นส่วนตัวด้วยการเชื่อมบันไดหน้าบ้านตรงสู่ห้องนั่งเล่น และการออกแบบที่คำนึงถึงผู้สูงอายุเป็นหลัก อาทิ ห้อง Sanctuary Unit ห้องนอนผู้สูงอายุชั้น 1 พร้อมพื้นลดแรงกระแทก (absorption floor) และราวจับในห้องน้ำ
5. Convertible Space “การออกแบบพื้นที่ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย” ประโยชน์ใช้สอยเต็มพื้นที่ ฉีกกรอบคำจำกัดความแบบเดิม ยกตัวอย่าง พื้นที่เตรียมอาหารขนาดใหญ่ (Dining Terrain) ทำให้เกิดมุมมองที่โปร่ง แปลกตา จากที่จอดรถที่ไม่เป็นผนังทึบ กลายเป็นลานเอนกประสงค์สำหรับจัดงานสังสรรค์เล็กๆ สำหรับครอบครัวและกลุ่มเพื่อนได้อีกด้วย

ห้องนั่งเล่น

มุมพักผ่อนของครอบครัว

มุมรับประทานอาหาร

ห้องทำงาน

ห้องนอนเล็ก

ห้องเพนท์เฮาส์

Walk in Closet

ห้องน้ำที่เชื่อมต่อกับคอร์ตบนชั้น 3

Motion Sensors

อย่างที่กล่าวไว้ว่า เอพี ได้ร่วมกับพันธมิตรอย่าง บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ในการเข้ามาทำงานร่วมกับทีม AP Design Lab เพื่อร่วมกันวางระบบบ้านแสนฉลาดให้เกิดขึ้นในทุกพื้นที่ โดยมีโครงการบ้านกลางเมือง คลาสเซ่เป็นโครงการนำร่อง โดยเอพีเป็นรายแรกในธุรกิจอสังหาทรัพย์ไทยที่เหนือกกว่าด้วยการผสานนวัตกรรม  Alexa Voice Command ระบบสั่งงานด้วยเสียงให้เชื่อมต่อเข้ากับระบบสมองกลอัจฉริยะ และการสั่งงานผ่าน AP Intelligent Living Application ที่จะเป็นศูนย์กลางควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ทุกชิ้นภายในบ้าน  นอกจากนี้ระบบอินเทลลิเจนท์โฮมยังพัฒนาขั้นสูงไปจนถึงสามาถตอบโต้กับเจ้าของบ้านตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวที่มีความสามารถมากขึ้น ตอบโจทย์พฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยจริงได้อย่างน่าทึ่ง ช่วยให้ชีวิตของลูกบ้านเอพีสะดวกสบายและมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ คือโครงการแรกในธุรกิจอสังหาทรัพย์ที่เหนือกกว่าด้วยการผสานนวัตกรรม ‘Alexa Voice Command’ ระบบสั่งงานด้วยเสียง ระบบสมองกลอัจฉริยะอัจฉริยะ เชื่อมต่อทุกระบบภายในบ้านให้เป็นหนึ่ง จากการทุ่มเทของทีมงาน 2 องค์กร เอพี-ซัมซุงศึกษาวิจัยไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยจริงของคนเมือง

บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครับครัน อาทิ Wellness Pavilian คลับเฮาส์ดีไซน์หรูหรา 2 ชั้น พร้อมห้องพักผ่อน ห้องออกกำลังกาย และลานเอนกประสงค์ สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือขนาดใหญ่ และสวนพักผ่อนขนาด 1 ไร่, Underground Cable ระบบไฟฟ้าใต้ดินทั้งโครงการ นอกจากนี้ยังมีระบบรักษาความปลอดภัย  24 Hours Security Guard หรือ ระบบรักษาความปลอดภัย ตลอด 24 ชม., Key Card Access เข้าออกด้วยระบบคีย์การ์ด, 24 Hours CCTV ติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดรอบโครงการ และที่รั้วโครงการสูงถึง 3 เมตร

Wellness Pavilian

ห้องออกกำลังกาย           

บ้านกลางเมือง คลาสเซ่มีทำเลที่ตั้งใกล้กับห้างสรรพสินค้ามากมาย อาทิ The Walk เกษตร-นวมินทร์, Nawamin City Avenue, Crystal Design Center, Central Festival Eastville และ The Crystal Park โครงการอยู่ลึกเข้าไปจากถนนประเสริฐมนูกิจ 300 เมตร ในอนาคตยังสามารถเดินทางเชื่อมต่อเมืองด้วยรถไฟฟ้าสายสีเทา สถานีเกษตร-นวมินทร์ ที่อยู่ห่างออกไปราว 1.1 กิโลเมตร โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จ 2564 เป็นอย่างน้อย

โครงการนี้ได้เริ่มก่อสร้างตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2558 และคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนมิถุนายน 2562

เกี่ยวกับ AP Intelligent Living 

‘AP Intelligent Living’ ที่สุดของนวัตกรรมการอยู่อาศัย จะถูกนำร่องใช้งานจริงเป็นที่แรกในเมืองไทย ณ โครงการบ้านกลางเมือง คลาสเซ่ ก่อนที่จะขยายคอนเซปต์ดังกล่าวต่อไปในโครงการระดับซูเปอร์ลักชัวรี่โครงการอื่นๆ ของเอพีในอนาคต โดยแนวคิดหลักของ ‘AP Intelligent Living’ จะประกอบด้วย

1. Convenient สะดวกสบายในการใช้ชีวิต ด้วยการเชื่อมต่อทุกสิ่งให้เป็นหนึ่งเดียว ครั้งแรกที่มีการนำเทคโนโลยีการสั่งงานด้วยเสียงเข้ามาผสาน เอื้อให้รูปแบบการใช้ชีวิตสะดวกสบายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแสงไฟ แอร์ ม่าน ทีวี เครื่องเสียง หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ทุกชิ้นสามารถควบคุมการทำงานด้วยเสียง ผ่านอุปกรณ์สำคัญคือ ‘Alexa Voice Command’ ที่เอพีและซัมซุงวางระบบไว้ให้ เพื่อเชื่อมต่อทุกความต้องการด้วยเสียงเท่านั้น นอกจาก ‘Alexa Voice Command’ จะควบคุมทุกระบบและเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านเสียงแล้ว ‘Alexa Voice Command’ นี้ยังทำงานร่วมกับสมองกลอัจฉริยะ ที่พัฒนาขั้นสูงไปจนถึงสามารถตอบโต้กับเจ้าของบ้านตลอด 24 ชั่วโมง หรือหากจะเลือกสั่งงานผ่าน AP Intelligent Living Application ก็ทำได้เช่นกัน นอกจากนั้น Application ยังสามารถควบคุมการเปิด-ปิดของประตูรั้วบ้าน (Automatic Entrance) ง่ายและสะดวกสบายต่อการนำรถเข้าบ้าน
2. Safety ปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงในการอยู่อาศัย ด้วยการวางระบบดวงไฟส่องสว่างอัตโนมัติ (Automatic Lighting) เมื่อมีการเคลื่อนไหวผ่านตั้งแต่เวลา 18.00-06.00 น. ทั้งภายในและภายนอกบ้าน เช่น บริเวณที่จอดรถ พื้นที่โดยรอบบ้าน และบริเวณบันไดทั้ง 3 ชั้น รวมถึงการให้ความสำคัญกับทุกนาทีในการอยู่อาศัยโดยเฉพาะผู้สูงอายุ ด้วยการวางระบบ Panic Bottom Alert ใน 2 จุดสำคัญภายในห้องผู้สูงอายุ คือข้างเตียงนอนและห้องน้ำ เมื่อกดสวิตซ์ระบบจะส่งสัญญาณฉุกเฉินเป็นข้อความไปยัง AP Intelligent Living Application และรปภ.ประจำโครงการเพื่อรีบให้การช่วยเหลือในทันที
3. Connected Home ต่อติดทุกระบบการรักษาความปลอดภัยให้เป็นหนึ่งเดียว ใช้งานง่ายผ่าน AP Intelligent Living Application เครื่องมือสำคัญที่เชื่อมคุณเข้ากับบ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งการเฝ้าระวังประตู-หน้าต่าง กรณีที่มีการบุกรุกระบบจะแจ้งเตือนไปยัง Application และรปภ.โครงการ การควบคุมการเปิด-ปิดดวงไฟตามที่ต้องการผ่าน Application และเจ้าของบ้านดูภาพสดได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่มุมใดของโลกจากกล้อง CCTV ภายในบ้าน

 

ข้อมูลเฉพาะโครงการบ้านกลางเมือง คลาสเซ่
(Baan Klang Muang CLASSE)

เจ้าของโครงการ: บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
ที่ตั้งโครงการ: ถนนสุคนธสวัสดิ์ แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว (สามารถเข้า – ออก ได้ทั้งซอยประเสริฐมนูกิจ 31 ถนนเกษตร-นวมินทร์, ซอยสุคนธสวัสดิ์ 17 และ ซอย 19 ถนนสุคนธสวัสดิ์)
พื้นที่โครงการ: 32.3 ไร่
มูลค่าโครงการ: 2,560 ล้านบาท
จำนวนรวม: 156 ยูนิต* (แบ่งการเปิดขายเป็น 2 เฟส)
เฟสที่ 1: บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ จำนวน 56 ยูนิต (เปิดขายอย่างเป็นทางการ 19 – 20 พฤศจิกายน 2559)
เฟสที่ 2: จำนวน 100 ยูนิต (เปิดขายอย่างเป็นทางการในปี 2560)