HAPPINESS IS HERE

แม้นศรีมีสุข

Text: เนปาล-พิษณุ
Photo: ฉัตรชัย เจริญพุฒ

โลกนี้มีความสุขอยู่สองแบบ สุขแรกคือความสุขจากการที่ได้รับ และสุขแบบที่สองคือความสุขจากการที่ได้ให้อะไรกับใครสักคน แต่ไม่ว่าจะเป็นความสุขแบบไหนก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งดีๆ ที่ควรจะหยิบยื่นให้กัน เช่นเดียวกับแนวคิดของ
คุณแทน – ดุษฎี สุวณิชยากุลหนึ่งในเจ้าของคาเฟ่สตูดิโอRue De Mansri (ครู เดอ แม้นศรี) ที่อบอวลไปด้วยความสุขง่ายๆ ด้วยแนวคิดแห่งการเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดมอบให้กับลูกค้า

Rue De Mansri ตั้งอยู่ตรงแยกแม้นศรีตรงข้ามการประปา ซึ่งทราบมาว่าคือการประปาแห่งแรกในประเทศไทย ทำให้ยิ่งอยากทำความรู้จักกับที่นี่ขึ้นไปอีก เมื่อเปิดประตูเข้าไปในบรรยากาศแอร์เย็นฉ่ำ ก็พบกับร้านเล็กๆ ตกแต่งน่ารัก แต่มีความลึกเข้าไป และมีทั้งชั้นล่างสุด ชั้นสอง และดาดฟ้าให้เลือกนั่งดื่มด่ำรสชาติกาแฟตามใจชอบ เราได้พบกับคุณแทน ซึ่งเชื้อเชิญให้ขึ้นไปนั่งพูดคุยกันบนชั้นสอง

“ตึกนี้สร้างในปลายรัชกาลที่5 ครับ เรื่องราวของที่นี่เกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์การเกิดขึ้นครั้งแรกไม่ว่าจะเป็นการประปาแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งก็คือการประปาแม้นศรี รวมถึงการมีรถไฟเป็นครั้งแรก นอกจากนั้นตำแหน่งของร้านเรายังเคยเป็นสถานีรถรางแม้นศรีมาก่อน ต่อมาก็กลายเป็นร้านขายเครื่องเขียน เดิมอาคารอนุรักษ์ชุดนี้จะทะลุหากันสามห้อง ตอนที่เราเริ่มปรับปรุงเพื่อทำคาเฟ่นี้ เมื่อเริ่มสกัดอิฐใหม่ตรงผนัง เราได้พบกับซุ้มเก่า 2 ซุ้มซึ่งก็ได้ทราบว่า อิฐชั้นในที่เห็นก็คือของดั้งเดิมตั้งแต่สมัยรัชกาลที่5 เราจึงยังคงรักษาไว้ และพยายามดึงความเก่าออกมาให้เป็นเสน่ห์ของร้านให้ได้มากที่สุด ส่วนที่ต้องปรับเพิ่มเติมก็คือบันไดที่ทำให้เดินขึ้นลงได้ง่าย เพิ่มชานพัก ในส่วนของเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่ง ด้วยความที่ผมเป็นคนชอบสะสมงานเก่าๆ อยู่แล้ว ก็สามารถหยิบมาใช้ได้”

ได้ฟังสตอรี่ของสถานที่ผ่านคำบอกเล่าอย่างเป็นกันเองของคุณแทนแล้ว ยิ่งทำให้สุขใจไปกับบรรยากาศของวันวาน ในส่วนของความสุขใจที่จะได้จากบรรยากาศในการตกแต่งร้านหรือฟังก์ชั่นอื่นๆ ของร้านในปัจจุบัน และรสชาติของอาหารและเครื่องดื่มที่จะได้จาก Rue De Mansriล่ะ มีอะไรบ้าง?

“ผมกับหุ้นส่วนที่เป็นเพื่อนกันอีกสองคน เปิดให้บริการที่นี่มาในวันที่ 6 มกราคม ที่ผ่านมานี้เอง โดยเพื่อนคนแรกก็จะดูแลเรื่องสถานที่ และมาจอยกันกับความชอบทานกาแฟของผม บวกกับเพื่อนอีกคนที่เป็นช่างภาพ ก็เลยเป็นที่มาที่ไปของ Café Studioซึ่งฟังก์ชั่นของที่นี่ นอกจากจะเป็นคาเฟ่แล้ว ด้วนบนชั้นสอง เราได้สร้างสตูดิโอถ่ายภาพเปิดให้เช่าในราคาพิเศษโดยมีอุปกรณ์สำหรับสตูดิโอพร้อม ไม่ว่าจะเป็นการกั้นโซน มี Lighting มีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์พร้อมเคลื่อนย้ายเพื่อเปิดสเปซของการถ่ายภาพได้อย่างสะดวก”

“ในส่วนความสุขด้านอาหารซึ่งเป็นหัวใจหลักของเรา แน่นอนกาแฟ และอาหารต้องมีคุณภาพและรสชาติดี โชคดีมากที่เราได้พาร์ทเนอร์ที่ดี ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดกาแฟจากร้าน Bangkok Espresso Barซึ่งผมเคยเป็นลูกค้า และติดใจในรสชาติ ที่มีจุดเด่นคือเขาไปคัดเมล็ดพันธุ์เอง ไปดูแล ไปพูดคุยกับเจ้าของไร่กาแฟเอง และยังกลับมาคั่วเม็ดเอง ซึ่งร้าน Bangkok espresso bar นี้พิกัดอยู่ที่ย่านอารีย์ ผมจึงคิดว่าอยากจะเอารสชาติดีๆ แบบนี้มาให้คนในย่านแม้นศรีได้ทานบ้าง”

“ส่วนไฮไลท์อีกอย่างก็คือส่วนของขนมอบ ซึ่งเราสั่งตรงมาจากเจ้าดังในเชียงใหม่ก็คือ NANA Jungle Cafe’&Restaurant ที่ขึ้นชื่อเรื่องครัวซองมากๆ โดยคุณนิโคลเจ้าของร้านซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศสได้มาตั้งรกรากอยู่ที่เชียงใหม่ เราก็ไปคุยกับเขาเองว่าอยากได้ขนมอร่อยๆ ของเขามาให้คนกรุงเทพฯ ได้ทานบ้าง ด้วยความตั้งใจที่มาจากใจจริงทำให้ Rue De Mansriได้ขนมจากที่นั่น มาอบร้อนๆ หอมกรุ่น เสิร์ฟในยามเช้าให้ลูกค้าในกรุงเทพฯ ได้ทานที่นี่เพียงที่เดียวครับ”

“ ในส่วนของเมนูเครื่องดื่มก็มีหลากหลาย แต่ที่จะแนะนำในวันนี้ก็ได้แก่ blue Hawaii น้ำเชื่อมสีฟ้าทานคู่กับโซดา ที่จะให้ความหวานกำลังดีพร้อมความสดชื่น หรือจะเป็น Matcha Green Teaรสชาตินุ่ม ลิ้น หอมสดชื่น และเช่นเดียวกันคือรสชาติก็ไม่หวานเกินไป ส่วนซิกเนเจอร์ใหม่ล่าสุดที่จะไม่มีที่ไหนก็คือ ทุกวันพุธ เราจะมีเคอร์รี่เดย์ เสิร์ฟเมนูครัวซองที่ทานคู่กับแกงไก่แบบอินเดีย สูตรต้นตำรับที่ผ่านมาถึงสามยุค ถ่ายทอดมาจากรุ่นคุณยายของผมเอง”

ตลอดการสนทนา เราสัมผัสได้ถึงความรัก ความภาคภูมิใจกับองค์ประกอบต่างๆ ที่ได้สร้างสรรค์ และคัดสรร มาให้กับลูกค้าที่ Rue De Mansriแห่งนี้ จึงอยากทราบคำตอบปิดท้ายของคำถามที่ว่า ความสุขของคุณแทนคืออะไร?

“ความสุขของผม เรียบง่ายมากครับ ผมอยากเห็นคนที่มาร้านผม ได้ทานกาแฟรสชาติดี ได้มีโอกาสลิ้มลองขนมอร่อย ได้เห็นลูกค้าทุกกลุ่ม แม้แต่น้องๆ นักศึกษาที่กลับมาทานร้านเราได้บ่อยขึ้น ในหนึ่งร้อยบาท หากมาที่นี่ทุกคนสามารถทานได้ทั้งกาแฟดีๆ ขนมอร่อยๆ ในบรรยากาศที่มีแต่ความรื่นรมย์ เพลงเพราะๆ แอร์เย็นฉ่ำ ดอกไม้สดในแจกันตามมุมต่างๆ ที่เราเปลี่ยนใหม่หมดทุกอาทิตย์ ความสุขของผม คือการได้เห็นทุกคนได้กลับมาใช้เวลาแห่งความสุขที่นี่ ได้ในทุกๆ วันครับ”

Location:
417ถนนบำรุงเมือง แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร 1010
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 07.00 – 17.00น.
Tel:083 158 9999
Facebook: Rue_de_Mansri_Cafe&Studio
Instagram: rue_de_mansri

Leave A Comment