หยุดวันวานไว้ที่กาลเวลาเฮาส์ 


หากใครได้ผ่านไปยังถนนกรุงเกษมภาพความทรงจำกับบรรยากาศเก่าๆ คงหวนคืนกลับมา เพราะอาคารในย่านนี้ที่ยังคงรูปแบบสถาปัตยกรรมโคโลเนียลซึ่งแพร่ขยายเข้ามาสู่ประเทศไทยเป็นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่5-6 ซึ่งผู้คนในสมัยนั้นมักจะเรียกกันอย่างติดปากว่า “ตึกฝรั่ง” และในปัจจุบันถนนเส้นนี้เป็นที่ตั้งของที่พักและคาเฟ่ที่กำลังถูกพูดถึงอย่างมาก
ที่นี่คือ “กาลเวลาเฮาส์” และ “Buddha & Pals”


เราเดินหนีแดดร้อนๆ เปิดประตูเข้าไปในตึกรูปทรงคลาสสิกบนถนนกรุงเกษม ซึ่งบริเวณด้านหน้าเป็นคาเฟ่
Buddha and Palsซึ่งถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงาม แอร์เย็นฉ่ำทำให้ได้คลายความร้อน ยังไม่ทันจะได้สั่งเครื่องดื่ม
ชายหนุ่มบุคลิกอบอุ่นซึ่งเป็นเจ้าของก็เดินเข้ามาต้อนรับอย่างเป็นกันเอง คุณแมค-ภีระสิทธิ์ สีมูลเสถียร ทักทายพร้อมสั่งกาแฟหอมๆ เคล้าบทสนทนา ซึ่งหลังจากนั้นคุณแมค ก็ได้เปิดประตูด้านหลังที่เชื่อมต่อส่วนของที่พักอย่างกาลเวลาเฮาส์ เดินไป
คุยไป เล่าที่มาของตึกเก่าชวนหลงรักแห่งนี้ “จริงๆ ตรงนี้เป็นตึกแถวโบราณอายุประมาณ 70-80 ปีแล้วครับ เคยทำหน้าที่มาหลายบทบาทมาก มีผู้เป็นเจ้าของจากรุ่นสู่รุ่น นับตั้งแต่ท่านหลวงสิทธิ์ โยธารักษ์ หมอยาผู้คิดค้นต้นกำเนิดยาประสระ
นอแรด หรือ น้ำมันมวย ที่หลายคนคงเคยผ่านหูมาบ้าง ที่นี่จึงเคยเป็นทั้งโรงงานผลิตน้ำมันมวยมาก่อน เมื่อเปลี่ยนกิจการก็เคยเป็นร้านสูท ร้านเครื่องประดับบ้าง เป็นตึกเช่าทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ฯ ได้สิทธิ์เช่ามาตั้งแต่สมัยรุ่นคุณปู่คุณทวดเลยครับ มาถึงรุ่นนี้เราจึงสานต่อการอนุรักษ์ด้วยการรีโนเวทให้เป็นที่พักในนาม Kanvela House(กาลเวลาเฮาส์) และร้านกาแฟ Buddha & Pals ครับสำหรับสไตล์การตกแต่ง เราไม่อยากให้ดูซับซ้อนมาก อยากจะให้เข้าถึงง่าย ได้มองเห็นเรื่องราวของตึก บรรยากาศในอดีต ตอนจะเข้ามาปรับปรุง ผมก็ได้คุยกับเพื่อนกับสถาปนิกเอง พยายามมองว่าถ้าเราเป็นคนพัก เราอยากได้อะไร แน่นอนสิ่งที่เราต้องการคือความสบาย และความคลาสสิกจากโครงสร้างเดิมๆ ซึ่งเรามองยังไงตึกนี้ก็สวยในตัวเองอยู่แล้ว เรามีหน้าที่เข้ามาปรับปรุงซ่อมแซมมากกว่า ไม่ได้ทำสีเพิ่ม หรือพยายามยัดเยียดอะไรที่ไม่เข้ากัน ผมระวังมากในเรื่องนี้ เพราะไม่อยากให้มันดูประดิษฐ์เกินไปครับ และอย่างผมอยากใช้คำว่าเฮาส์ มากกว่า โฮสเทล แม้สัดส่วนของห้องต่างๆ จะมีรูปแบบคล้ายๆ โฮสเทล มีห้องไพรเวท ห้องดอร์ม ห้องน้ำรวม แต่บรรยากาศของกาลเวลาเฮาส์จะอบอุ่นเหมือนได้อยู่บ้านมากกว่า ห้องพักที่เปิดออกมาแล้วพบกับระเบียงกลางบ้านโล่งๆ ต้นไม้ที่เสียดยอดสูงจากพื้นดินชั้นล่างขึ้นมาบนชั้น2 ได้อารมณ์เหมือนบ้านที่ยังมีคนอยู่จริงๆ ผมอยากให้คนที่มาพักที่นี่แล้วรู้สึกเหมือนได้มาเยี่ยมญาติ หรือมาบ้านเพื่อนครับ”


ซึ่งระหว่างที่คุณแมคพาชมห้องพักซึ่งอยู่บนชั้น2 ก็ได้เห็นบรรยากาศแบบนั้นจริงๆ อย่างตรงระเบียงกลางบ้านก็จะได้เห็นมุมนั่งสังสรรค์ที่จัดไว้ มีโซฟา เก้าอี้ ชวนให้ได้นั่งเอนกาย ดูสบายมากๆ

 
“ระเบียงกลางบ้านนี้ผมอยากให้เหมือนเป็นมุมรับแขกครับ เลยเตรียมขนมทานเล่น และชา กาแฟ ไว้ให้บริการฟรีๆ คอนเซ็ปต์อีกอย่างที่เราคงไว้คือ live and local คืออยากให้เปิดประตูออกไปแล้วก็เจอกับเพื่อนบ้าน บริบทรอบๆ ของพื้นที่ในชุมชน ซึ่งลูกค้าชาวต่างชาติจะชอบมากเพราะได้มาสัมผัสกลิ่นอายความเป็นเอเชีย”ต้องยอมรับว่าในส่วนของคาเฟ่ของกาลเวลาเฮาส์ที่ใช้อีกหนึ่งชื่อสะดุดหูอย่างBuddha & Palsก็ถือเป็นหมุดหมายใหม่แห่งการเช็คอินในย่านนี้เลยทีเดียว คุณแมคคิดอย่างไรกับเสียงตอบรับดีเช่นนี้

“ตอนแรกก็แปลกใจเหมือนกันครับ เพราะเราเพิ่งเปิดได้ไม่กี่เดือน แต่จริงๆ แล้วก็ใช่ว่าลูกค้าจะมาจากทางโซเชียลเพียงอย่างเดียว นักท่องเที่ยวที่ walk in เข้ามานั่งพัก นั่งทานกาแฟก็มีเยอะครับ สำหรับชื่อ Buddha & Pals ผมอยากชื่อเขาลิงค์กับคอนเซ็ปต์ของกาลเวลาเฮาส์ คือให้เป็นมุมพักผ่อน และเป็นสถานที่แห่งความสุขครับ ซึ่ง Buddha ก็เป็นตัวแทนของศาสนาซึ่งเป็นตัวแทนของความสุข สงบ ส่วนคำว่า Pals ก็เป็นตัวแทนของคำว่าเพื่อน เหมือนการได้มาบ้านเพื่อน พบกับบรรยากาศที่ดูพอเพียงกับความสุขง่ายๆ นอบน้อมกับชีวิต ซึ่งความสุขง่ายๆ ของเรา ก็คือการได้เห็นลูกค้ามาที่นี่ แล้วมีความสุข เราก็อิ่มเอมใจแล้วครับ”

Location:
กาลเวลาเฮาส์ (kanvela house)
716 ถนนกรุงเกษม แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร
TEL061 585 9283

Leave A Comment