HORIZONTAL HOUSE
“บ้านขอบฟ้า”
Text: อุบลวดี พงษ์ทองวัฒนา
Photo: จาก AAd – Ayutt and Associates Design
การเดินเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง เหมือนเดินเข้าไปทำความรู้จักกับตัวตนที่แท้จริงของผู้เป็นเจ้าของ ถ้าเป็นบ้านพักตากอากาศ ก็เหมือนเดินเข้าไปสัมผัส ขณะหนึ่งของความผ่อนคลาย ซึ่งยังคงเป็นตัวตน ยังคงเป็นรสนิยม แต่เหมือนกับวางความรู้สึกเบาๆ สบายๆ ไว้ ณ ที่นั้น เช่นเดียวกับบ้านขอบฟ้า ของคุณยุ้ย กันธิชา ฉิมศิริ Mr. Alexander Pape และลูกชาย Master Nicolas Pape ความประทับใจแรกที่สัมผัสได้ คือสิ่งแสดงออกที่ตรงกันข้าม แน่นอนเป็นบ้านที่มีขนาดใหญ่มาก แต่กลับมองเห็นความเรียบง่าย
ตัวบ้านที่เดินเส้นขอบขาวเป็นแนวยาวล้อไปกับความโค้งชันของภูเขา ไม่ได้แย่งซีนความสวยงามของธรรมชาติรอบข้างเลย ภูเขาที่ตั้งตระหง่านอยู่ไม่ห่าง ยังคงดึงดูดสายตา ให้เราหันไปมอง และสูดหายใจให้เต็มปอด คุณอยุทธ์ มหาโสม สถาปนิกจาก AAd – Ayutt and Associates design เล่าให้ฟังว่า
บ้านหลังนี้เป็นบ้านพักผ่อน ที่มีความเรียบง่าย เพียงแต่มีสเกลของบ้านที่ใหญ่ขึ้น เนื่องจาก เป็นบ้านพักที่รองรับไลฟสไตล์ของเจ้าของบ้านอย่างแท้จริง ใกล้ชิดธรรมชาติของป่า พื้นที่ส่วนใหญ่ของบ้านจึงเปิดโล่ง เป็นกระจกบานใหญ่แทบจะรอบทิศทาง เพื่อให้เห็นธรรมชาติในทุกมุมมอง รูปทรงของบ้านเป็นกล่องสี่เหลี่ยมดูบางเบา ต่อเชื่อมกันคล้ายตัวยู ที่เหลื่อมกันเล็กน้อย เพื่อไม่ให้บังวิวกันและกัน สามารถมองเห็น และเดินถึงกันได้หมด
ฟังค์ชั่นภายในบ้าน เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน มีห้องพักเจ้าของบ้าน ห้องรับรองแขก ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ในบ้าน เพื่อรับรองเพื่อนสนิท ที่จะมาสังสรรค์ ตามปกติของบ้านพักตากอากาศ ที่สร้างขึ้นเพื่อพักผ่อนกับครอบครัว และสนุกกับเพื่อนๆ มีสระว่ายน้ำที่ตรงและยาว 50 เมตร ขนาดมาตรฐานเท่าสระเพื่อการแข่งขัน ทั้งนี้ก็เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของมุมพักสายตา ที่ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนของบ้าน ก็จะมองเห็นน้ำที่กระเพื่อมเบาๆตามแรงลม ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย และเป็นมุมโปรดของน้อง Nicolas ที่เมินสระเด็ก ซึ่งคุณแม่ออกแบบไว้ให้ แต่ชอบจะลงเล่นน้ำกับคุณพ่อ ที่สระใหญ่มากกว่าสระเด็ก และ โซนนั่งเล่นที่ออกแบบ ให้ต่ำขนาบข้างไปกับขอบสระ จึงกลายเป็นมุมโปรด ที่จะนั่งพักผ่อน ชมธรรมชาติ และครอบครัวก็จะรับประทานอาหารด้วยกัน ที่มุมนี้บ่อยกว่าในบ้าน เพราะมีลมพัดผ่านเย็นสบายตลอดวัน
ความพิเศษที่ทำให้บ้านพักผ่อนหลังนี้ มีสเกลใหญ่มาก เพราะคุณยุ้ยและสามี ต้องการให้ที่นี่เป็น Private Gallery เก็บภาพงานศิลปะที่สะสม และมีโรงเก็บรถยนต์ ทั้งรถโบราณ รถแข่ง และรถสะสม ซึ่งเป็นความชอบของคุณยุ้ย ตัวบ้านที่มองภายนอกเป็นสองชั้น แต่ภายในได้รับการออกแบบให้เป็นเหมือนชั้นครึ่งตลอดเป็นแนวยาว ผนังของบ้านในส่วนที่เป็นโถงสูง กรุกระจกทรงสูงจรดพื้นถึงเพดาน มองเห็นวิวรอบทิศทาง ส่วนฝั่งระเบียงชั้นสองเป็นผนังทึบเพื่อติดงานศิลปะขนาดใหญ่จำนวนมาก เป็นอีกหนึ่งมุมมองพักผ่อนสายตา ที่ให้อีกอรรถรสความสุข งานศิลปะส่วนใหญ่ก็จะมีสีสันสดใส ทำให้บ้านมีชีวิตชีวามากขึ้นอีกด้วย
ส่วนของโรงเก็บรถ ต้องถือว่า เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญ ที่ คุณอยุทธ์ มหาโสม ออกแบบจากโจทย์ตั้งต้นในเรื่องของข้อจำกัดที่ว่า บ้านพักตากอากาศภายใน โครงการ Che Elpend เขาใหญ่ ต้องสูงไม่เกินสองชั้น แต่การจะออกแบบที่จอดรถที่ต้องจอดรถได้มากกว่า 10 คัน ในขนาดบ้านสองชั้น ถือเป็นโจทย์ยาก แต่ก็เป็นเหมือนการจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ให้กับคุณอยุทธ์ มหาโสม หนึ่งในนักออกแบบ ที่มีความโดดเด่นมากในเรื่องของการออกแบบแนวคิดใหม่ ในกับวงการสถาปนิกของไทย
“บ้านหลังนี้ถือว่า ซับซ้อนน้อยที่สุดเท่าที่เคยออกแบบมา เนื่องจากเป็นบ้านพักตากอากาศ ที่คุณยุ้ยต้องการให้เรียบง่าย โปร่ง มองเห็นวิวให้มากที่สุด แต่ด้วยข้อจำกัดว่า บ้านต้องสูงไม่เกินสองชั้น การจะทำที่จอดรถขนาดใหญ่ ทางเดียวก็คือ ต้องเจาะห้องใต้ดิน โดยออกแบบให้เหมาะสมกับการเก็บรักษารถยนต์ ที่มีราคาค่อนข้างสูง จะต้องคำนึงถึงการแก้ปัญหาความอับชื้น ต้องให้อากาศถ่ายเท มีแสงแดดส่องผ่านลงมาได้ ผมจึงออกแบบช่องบันไดขึ้นลง ให้เป็นกระจกเพื่อให้แสงลอดผ่านลงมา และช่วยให้อากาศถ่ายเท ลมพัดผ่านตลอด”
“จริงๆ เราติดเครื่องปรับอากาศ เพื่อควบคุมอุณหภูมิให้พอเหมาะกับการรักษาสภาพของรถยนต์ ไม่ให้เกิดความเสียหาย หากอยู่ในอากาศที่ร้อนหรืออับชื้นเกินไป แต่พอใช้งานจริง อากาศที่ลงมายังห้องใต้ดินกลับเย็นสบาย โดยไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศเลย และแสงสว่างที่ลอดผ่านตรงทางเดินกับช่องกระจก ที่สามารถมองทะลุถึงสวนด้านบน ลดทอนความอึดอัด คุณยุ้ยจึงขอให้ออกแบบห้องทำงานไว้ที่ห้องใต้ดินนี้ด้วย เพราะมันได้ความเป็นส่วนตัวอย่างมาก แตกต่างจากบ้านพักชั้นบน แล้วยังได้ประโยชน์เรื่องความปลอดภัย ไม่ต้องห่วงเรื่องการขโมยรถ เพราะใช้ลิฟท์ในการยกรถขึ้นไปด้านบน เหมือนมีระบบป้องกันขโมยที่วางใจได้”
คุณยุ้ย กันธิชา ฉิมศิริ Mrs.Universe Thailand 2016 มีความชื่นชอบการสะสมรถ และการแข่งรถมาก เร่ิมต้นจากคำแนะนำของเพื่อน เธอจึงนำรถเฟอรารี่ คู่ใจลงแข่งขัน จากนั้นก็แข่งขันเรื่อยมา ทั้งในประเทศและต่างประเทศ คุณยุ้ยเล่าว่า
“ยุ้ยเร่ิมขับรถคันแรกคือรถฮอนด้า และก็ขยับมา BMW มาจนถึงรถแข่งเฟอรารี่ มีความรู้สึกว่า ขับรถแข่งสนุกมาก ก็เลยสะสมมาเรื่อยๆ เราค้นพบว่า การสะสมรถเป็นความสุข พอมาอยู่บ้านที่เขาใหญ่ ยุ้ยขอให้คุณอาร์ต อยุทธ์ ออกแบบห้องทำงานให้ยุ้ยที่ห้องใต้ดิน เวลามานั่งในห้องนี้มองดูรถที่จอดใกล้ๆเราแล้วมีความสุข ส่วนเรื่องการแข่งรถก็เริ่มจากเพื่อนชวนไปแข่ง เราก็ไป แล้วก็รู้สึกสนุก เร่ิมมีเป้าหมายที่สูงขึ้นเรื่อยๆ แข่งในประเทศ แข่งต่างประเทศ ยุ้ยตั้งเป้าหมายว่า จะต้องได้รับรางวัลได้ขึ้นสเตท มันเป็นความภูมิใจ” และก็เป็นผู้หญิงไทยคนแรกที่ได้ลงสนามการแข่งขันรถซุปเปอร์คาร์ Ferrari 488 Challenge Racing Asia Pacific 2017 และเธอเล่าว่าเป้าหมายของเธอก็ยังสูงขึ้นไปอีกเรื่อยๆ
สำหรับครอบครัว คุณยุ้ย ให้ความสำคัญกับครอบครัวมาก ถึงแม้การแต่งงานกับชาวต่างชาติ จะมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง แต่คุณยุ้ยกลับมองเป็น จุดดีสำหรับครอบครัวของเธอ “สามียุ้ยชอบงานศิลปะ ส่วนยุ้ยชอบรถ เรามีความสุขกันคนละแบบ และเราก็สนับสนุนในสิ่งที่ชอบของทั้งสองฝ่าย ครอบครัวยุ้ยความแตกต่างเป็นเรื่องที่ดี ถ้าเราเหมือนกันเกินไป มันก็ไม่มีอะไรต้องศึกษากันมาก แต่ถ้าเราต่างกัน แล้วเราทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน ให้เกียรติกัน ยุ้ยว่า นั่นคือส่ิงที่ทำให้ยุ้ยกับสามีอยู่ด้วยกันได้ เรามีอิสระในความชอบ และไม่ก้าวก่ายกันจนเกินไป เคารพการตัดสินใจของอีกฝ่าย จึงทำให้เราอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขนานถึงสิบปี”
“อยู่ที่นี่บรรยากาศดี เป็นที่โอโซน ทำให้ร่างกายแข็งแรง และได้อยู่ใกล้ธรรมชาติ ยุ้ยสร้างบ้านหลังนี้ก็เพื่อให้สามีและลูกได้เปลี่ยนบรรยากาศ ได้พักผ่อนในที่อากาศดี เขาเป็นต่างชาติมาเมืองไทย ยุ้ยก็อยากแนะนำให้เขาได้รู้จักอะไรหลายๆ อย่างที่เมืองไทย อยากให้เขารู้ว่า ยังมีที่อื่นอีกนะ ที่อยู่แล้วคุณจะมีความสุข ซึ่งลูกกับคุณพ่อเขาก็ชอบที่นี่มาก ได้เล่นน้ำกันสนุกสนาน” และมีคุณยุ้ยคอยมองดูอยู่ไม่ห่าง ด้วยแววตาของความสุข