THE WAY WE LIVE
บุ๋ม–ตรีรัก รักการดี อีก 10 ปี ฉันจะกลับมา
“มีแฟนหรือยังจ๊ะ ฮะฮะฮะฮะ เป็นแฟนฉันเอามะ มีแฟนหรือยังจ๊ะ ฮะฮะฮะฮะ เป็นแฟนฉันดีนะ”
หากย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2537 คงมีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่รู้จักและสามารถร้องตามท่อนฮุกยอดฮิตท่อนนี้ในเพลง ‘มีแฟนหรือยังจ๊ะ’ จากอัลบั้ม ‘Moddy ตรีรัก’ ค่าย Kita Music ของเจ้าของห้องคอนโดมิเนียมห้องนี้ได้ ส่วน ณ ปัจจุบันใครที่ยังสามารถร้องเพลงนี้ตามได้อยู่ อืม…นั่นแสดงว่าคุณเอง (บางคน) ก็อายุอานามไม่น้อยแล้วทีเดียว!
สำหรับบางคนอาจทักท้วงกลับว่า ก็แหงหละ นั่นมันผ่านมากว่า 20 ปีแล้วนี่นา แล้วจะไม่ให้แก่ได้ไง… ไม่แก่หรอกครับ ไม่แก่เลยจริงๆ ผมหมายถึง คุณบุ๋ม-ตรีรัก รักการดี อดีตนักร้อง นักแสดง นางแบบ และเซ็กซี่สตาร์ในวัย 50 ปี ที่ภายหลังจากเธอหันหลังให้กับวงการบันเทิงไทย ทิ้งชื่อเสียงสาวเปรี้ยวนุ่งสั้นสะท้านทรวงที่เคยสร้างไว้เป็นเพียงอดีต แล้วย้ายไปใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา นานกว่า 20 ปี โดยเป็นกูรูด้านกรูมมิ่งให้กับสุนัขและแมวที่ร้านดังแห่งลอสแองเจลิส โดยมีใบประกาศนียบัตรมาสเตอร์กรูมเมอร์เป็นเครื่องยืนยันความสามารถ เธอกล่าวแบบติดตลกกับเราว่า บางทีเธออาจจะเป็นเซเล็บคนไทยคนแรก (และคนเดียว) ที่หันหลังให้วงการบันเทิง แล้วมาเอาดีด้านการตัดขนสุนัขและมีชื่อเสียงอยู่ที่อเมริกาก็เป็นได้
ในอีก 10 ปีข้างหน้าเธอบอกจะกลับมาอยู่เมืองไทยอย่างถาวรอีกครั้ง เพียงแต่วันนี้เธอกำลังกลับมาเริ่มต้นปูทางไว้แต่เนิ่นๆ โดยตัดสินใจเลือกซื้อคอนโดในทำเลใกล้บ้านของคุณแม่ในย่านลาดพร้าว–วังหิน เพื่อที่จะสามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้อย่างสะดวก ครั้งนี้เราเองรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่เธอยอมสละเวลาช่วงสั้นๆ ขณะกลับมาอยู่เมืองไทยชั่วคราว เปิดห้องใหม่เอี่ยมอ่องให้เข้ามาเยี่ยมชมเป็นฉบับแรก
“นี่เป็นความรู้สึกที่ทุกอย่างลงตัวหมดแล้ว เป็นความอบอุ่นของผู้หญิงวัย 50 คนหนึ่งที่เพิ่งจะมีคอนโดเป็นสไตล์ของตัวเอง” เธอย้ำเหตุผลการมีคอนโดในฝัน พร้อมเล่าเรื่องราวและชีวิตความเป็นอยู่ในช่วงที่ผ่านมาให้เราฟังอย่างเป็นกันเอง “ตอนเราอยู่คอนโดที่แอลเอซึ่งมี 3 ห้องนอน เราจะได้ห้องครัวที่ใหญ่กว่านี้ แต่เมื่อตัวเลือกมีไม่มาก ได้ห้องครัวแค่นี้ก็ไม่เป็นไร จริงๆ ก็เป็นคนไม่ค่อยทำอาหารที่ต้องใช้กระบวนการทำงานที่ยุ่งยากพอสมควรทานอยู่แล้ว มีเตาไมโครเวฟสำคัญสำหรับเราแค่นี้เอง ไม่มีอะไรมากมาย แต่เราเป็นคนที่ชอบความคลาสสิก อย่างตู้เย็นในห้องครัวคือชอบที่สุดแม้ราคาจะสูงไปหน่อย แต่ก็คิดว่ามันเป็นเอกลักษณ์ของเรา”
นอกจากมุมพักผ่อน ห้องนอน หรือห้องนั่งเล่น สิ่งที่เห็นแล้วไม่พูดถึงคงไม่ได้ เป็นรูปถ่ายแนวเซ็กซี่จากในอดีต ที่แขวนประดับอยู่ตามมุมต่างๆ ทั่วห้อง “เราเป็นคนที่ชอบรูปตัวเอง คืออาจจะมั่นใจในรูปของตัวเอง แล้วก็รู้สึกดีที่ได้เห็นรูปในอดีตของเรา” เธออธิบายถึงภาพที่ถ่ายโดยช่างภาพแฟชั่นแถวหน้าของเมืองไทยอย่าง คุณณัฐ ประกอบสันติสุข พร้อมขยายความต่อไปอีกว่า “เคยมีรุ่นน้องทักว่าพี่บุ๋มไม่รู้เหรอว่าพี่บุ๋มแรงมาก เป็นผู้หญิงไทยที่แรงมาก (หัวเราะ) แต่พูดตรงๆ ถ้าเราไม่ได้ออกจากวงการ และไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ต่างแดนก็คงจะไม่ถ่ายอะไรแนวนี้ เราเป็นคนมีความคิดนะรูปพวกนี้ถ้าจำไม่ผิดถ่ายตอนอายุ 39 ถ้าอยู่เมืองไทยคงถ่ายไม่ได้หรอกเพราะรู้ว่าสังคมไทยค่อนข้างมีกรอบตรงนี้ แต่เราถือว่าตัวเองออกจากวงการแล้วตอน 32 ได้ไปใช้ชีวิตต่างแดนแล้ว รู้สึกว่านี่คือฉันได้เต็มที่ สังเกตว่าเราจะค่อนข้างให้สัมภาษณ์ได้ตรงและชัดเจนกว่าสมัยก่อนอีก ถือว่าคุณวุฒิ วัยวุฒิของเราพร้อมแล้ว”
“อยากจะบอกว่าทำไมผู้หญิงที่ถ่ายแบบ naked ขนาดนี้จำเป็นด้วยหรือที่ต้องเป็นผู้หญิงไม่ดี กรุณาคิดใหม่ บุ๋ม ตรีรัก นี่แหละ ฉันมั่นใจว่าฉันเป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่ง เรื่องความประพฤติ เรื่องผู้ชาย หรือเรื่องการใช้ชีวิตต่างๆ มันพิสูจน์แล้วว่าจนถึงอายุ 50 ฉันก็ยังเป็นผู้หญิงที่อยู่ในกรอบของฉันในระดับหนึ่ง” เธอตอบอย่างฉะฉานและตรงไปตรงมา
หลังใช้เวลาเกือบสองปีในการตกแต่งจนได้ห้องที่ต้องการ โดยอาศัยช่วงเวลาพี่ต้องกลับมาเมืองไทยทุกสามเดือนครั้ง แม้ของบางชิ้นจะยังคงไม่ถูกใจ 100% เต็มนักและคงต้องมีการโยกย้ายเปลี่ยนผ่านอีกสักพักใหญ่กว่าจะลงตัว แต่อย่างน้อยๆ ตอนนี้คอนโดในอุดมคติของเธอก็ได้เริ่มต้นนับหนึ่งไปแล้ว ถัดจากนี้ไปก็รอให้ครบถึง 10 แค่นั้น แล้วเธอจะกลับมา
TEXT: Mr.Daybeds
PHOTO: เปี่ยมพล จันทร์เปี่ยม