LIFE IN A MODERN LAKESIDE RESIDENCE


ชีวิตสราญรมย์ในบ้านกล่องริมทะเลสาบ

“หรูหราและแวดล้อมด้วยธรรมชาติ” เราให้คำนิยามบ้านกล่องสไตล์โมเดิร์นริมทะเลสาบแสนงามหลังนี้ไว้อย่างนั้นเพราะทันทีที่เรามาถึงในหมู่บ้านอันเงียบสงบได้ก้าวเข้าสู่ภายในบ้านหลังใหญ่จนกระทั่งได้พบกับเจ้าของบ้านผู้ใจดีเรารู้สึกได้ถึงคำนิยามที่ว่านั้นซึ่งกำลังโอบกอดเราอยู่ในทุกอณูของร่างกายและประสาทสัมผัสอย่างแท้จริง

ผู้หญิงใจดีคนนั้นพนักงานทุกคนที่บริษัทเฮเฟเล่ (ประเทศไทย) เรียกเธอว่า’นายแม่’ เธอเป็นชาวฟิลิปปินส์โดยกำเนิดแต่ย้ายมาอยู่เมืองไทยนานกว่า20 ปีแล้วแม้ทุกวันนี้อาจจะอ่านภาษาไทยไม่ออกเขียนไม่ได้แต่เธอพูดไทยได้คล่องปรื๋อเธอคือคุณมาริวิคเฮลสเติร์นผู้จัดการฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ฯภรรยาของคุณโฟลเคอร์เฮลสเติร์นกรรมการผู้จัดการบริษัทเฮเฟเล่ (ประเทศไทย) บริษัทผู้เชี่ยวชาญพิเศษในการให้คำแนะนำปรึกษาและบริการลูกค้าในด้านอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์อุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านและครัวเรือนอุปกรณ์สุขภัณฑ์และเครื่องมือช่างที่ได้มาตรฐานจากประเทศเยอรมนี

บทสนทนาของเราเป็นไปอย่างเรียบง่ายก่อนอื่นเราถามเธอว่าตลอด 20 ปีที่ผ่านมาเฮเฟเล่ (ประเทศไทย) มีหลักการดำเนินธุรกิจอย่างไรถึงประสบความสำเร็จอย่างเช่นทุกวันนี้ได้เธอบอกเพียงว่าเธอโชคดีที่มีพนักงานที่ขยันขันแข็งในขณะเดียวกันทีมผู้บริหารก็ไม่เคยย่อท้อแม้ในสภาพเศรษฐกิจตกต่ำงานหนักแค่ไหนก็สู้กันทุกคน

“เราทำงานกันแบบครอบครัวนี่คือสไตล์การทำงานของเฮเฟเล่ (ประเทศไทย) วิธีการทำงานของเราคือไม่ได้เจาะเฉพาะงานของเราทุกคนต้องช่วยกันช่วงที่เราเจอเศรษฐกิจไม่ดีสถานการณ์ของบริษัทก็50:50 แต่ว่าคนไทยก็ยังซื้อสินค้าที่มีคุณภาพดีถึงแม้ราคาจะไม่ถูกคนไทยหลายคนที่มีไลฟ์สไตล์ตอบโจทย์เหมือนผลิตภัณฑ์ของเฮเฟเล่ก็เลยมีการวิเคราะห์ว่าเราควรนำเข้าเฉพาะสินค้าที่เหมาะกับคนไทยเพราะจริงๆแล้วเฮเฟเล่ของแต่ละประเทศจะนำเข้าสินค้าไม่เหมือนกัน”

ส่วนเรื่องราวในบ้านกล่องริมทะเลสาบหลังนี้ คุณมาริวิคเล่าย้อนไปถึงเหตุผลของการเลือกทำเลภายในโครงการหมู่บ้านแห่งนี้ว่า “เจ้าของโครงการเชิญมาดูโครงการของเขาที่นี่ เนื่องจากว่าเรามีการขายผลิตภัณฑ์ให้กับทุกบ้านในนี้เยอะเหมือนกัน

“ที่เราชอบตรงนี้เพราะเป็นEnvironment ที่เงียบคือหน้าที่การงานของเรามีการออกไปข้างนอกบางวันอยู่บนรถทั้งวันตั้งแต่จันทร์-ศุกร์เราจึงต้องการสถานที่ที่พอถึงบ้านแล้วมีการผ่อนคลายได้เห็นธรรมชาติก็เลยตัดสินใจมาซื้อที่นี่เขาขายที่เปล่าส่วนบ้านก็เป็นฟรีสไตล์แล้วแต่เราพิจารณาว่าจะสร้างบ้านแบบไหนดีก็ตกลงกันว่าจะสร้างเป็นโมเดิร์นซึ่งผู้ออกแบบเป็นคนเยอรมันเป็นคนออกแบบโชว์รูมเฮเฟเล่ที่ภูเก็ตด้วยพอปรึกษาลูกๆกับสามีเขาชอบแบบOpen แล้วก็ไม่เยอะเราก็ตกลงว่าจะทำสไตล์Minimalist แล้วก็ Open”

Open ในความหมายของคุณมาริวิคหมายถึงการเน้นพื้นที่เปิดโล่งหรือOpen Spaceโดยเฉพาะพื้นที่บนชั้นสองที่มีการติดตั้งระบบบานเลื่อนอลูมิเนียมกรุกระจกแบบsemi-auto ที่สามารถเปิดออกได้ทั้งหมดเพื่อรับอากาศจากภายนอกเข้าสู่ภายในทั้งยังเชื่อมพื้นที่ภายนอกกับภายในเป็นส่วนเดียวกันโดยไร้สิ่งบดบัง

“พอสร้างบ้านเสร็จเราก็มาดูว่าจะใช้เฟอร์นิเจอร์แบบไหนห้องครัวแบบไหนสีอะไรของเราดูจะเป็นสีน้ำตาลหมดเลยเลยคิดว่าต้องมีอะไรที่มาเบรกเพื่อจะให้ดูสดใสส่วนครัวเราก็เลือกท็อปที่เป็นCaesarstone Surfacesที่เฮเฟเล่เป็นตัวแทนจำหน่าย”

ชุดครัวของเฮเฟเล่ ประกอบด้วย ตู้เย็น เครื่องล้างชาม เตาอบ และไมโครเวฟของโกเรนเย่ (Gorenje) ซิงค์บิวอินและก๊อกน้ำของบลังโก้ (Blanco)

อีกหนึ่งไฮไลต์ของบ้านหลังนี้คือบันไดทางขึ้นชั้น 3 ที่ตั้งใจจะให้ทำเป็นสีสนิม อารมณ์ดิบๆ ในความโมเดิร์น

ห้องน้ำภายในห้องนอนรับแขก มีระบบฝาชักโครกแบบ Soft close ซึ่งเวลาเปิด-ปิดก็จะไม่มีเสียงดัง

บ้านกล่องริมทะเลสาบ แบ่งออกเป็น 3 ชั้น โดยมีโรงจอดรถและประตูทางเข้าอยู่บนชั้น 3 ซึ่งบนชั้นเดียวกันนี้เองยังมีห้องนอนอีก 3 ห้อง ที่มีลักษณะเป็นกล่อง 3 กล่องวางขนานกันแบบต่างองศาโดยหันหน้าออกไปทางทะเลสาบ แบ่งออกเป็น ห้องนอนของคุณโฟลเคอร์กับคุณมาริวิค และห้องนอนของลูกชาย 2 คน โดยทุกห้องมองเห็นทะเลสาบได้อย่างชัดเจน ส่วนอีกหนึ่งกล่องที่ยื่นยาวออกไปจนเกือบถึงริมทะเลสาบเป็นส่วนของห้องโถงอเนกประสงค์ ซึ่งเป็นที่เก็บสะสมของเก่าและของขวัญที่ลูกค้ามอบมาให้

ถัดลงไปยังชั้น 2 ที่เรานั่งสนทนากันคือส่วนของห้องครัวและห้องรับประทานอาหารขนาบข้างด้วยห้องชมภาพยนตร์แบบHome Theaterและห้อง Snooker Roomรวมถึงส่วนของระเบียงกลางแจ้งที่มีบาร์เล็กๆริมสระว่ายน้ำขนาดย่อมรายล้อมไปด้วยบรรดาชุดโซฟาหวายตัวโปรดเรียงรายราวกับรีสอร์ทหรูริมทะเลสาบส่วนชั้นล่างสุดคือห้องนอนรับแขก 2 ห้องนอนที่สามารถมองเห็นทะเลสาบได้อย่างชัดเจนเช่นกัน

“ทุกห้องจะมองเห็นทะเลสาบลมเย็นพัดเย็นสดชื่นช่วงเดือนธันวาคมมีแขกมาพักหรือพ่อแม่เรามาเขาจะไม่ค่อยปิดผ้าม่านเพราะเขาบอกชอบดูตอนกลางคืนได้บรรยากาศเหมือนอิตาลีหายากนะคะสถานที่แบบนี้ที่เราชอบที่นี่คือสิ่งแวดล้อมแล้วก็ธรรมชาติเราเรียนจบด้านป่าไม้ก็เลยชอบต้นไม้มากค่ะเดิมที่ตรงนี้ไม่มีอะไรเลยเป็นที่เปล่าเราก็มาปลูกต้นไม้เองหมดเลยแค่ได้เห็นน้ำกับต้นไม้ก็เหมือนเป็นการRelax ชั้นนี้มีสระว่ายน้ำเวลามีแขกมา Relax มีเพื่อนมาSurprise เราก็จะมาทำบาร์บิคิวทานกันจะเปิดประตูตรงนี้ให้กว้างเป็นกึ่งOutdoor เตาบาร์บิคิวก็เป็นของเฮเฟเล่เหมือนกัน

บ้านหลังนี้เหมือนโชว์รูมที่สองของเฮเฟเล่ใช้ของเฮเฟเล่เกือบทุกอย่างมุมโปรดก็คือมุมริมสระว่ายน้ำบางทีเหนื่อยๆก็ต้องมานั่งสักพักเป็นการตั้งสมาธิในตัวหรือไม่ก็นั่งฟังเพลงข้างนอกระหว่างที่ลูกๆและสามียังไม่มาถึงแม้ว่าเราจะเจอสภาวะแบบไหนจากที่ทำงานแต่พอมาถึงบ้านเราได้อยู่เงียบๆสักพักดูน้ำดูต้นไม้ฟังเพลงไปด้วยก็โอเคแล้วค่ะ

แม้นัยหนึ่งเราอาจกล่าวได้ว่าบ้านหลังนี้คล้ายโชว์รูมเฮเฟเล่ขนาดย่อมแต่ใครล่ะจะกล้าปฏิเสธว่าอุปกรณ์และข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านส่วนใหญ่ซึ่งเป็นสินค้าคุณภาพที่เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) นำเข้ามาทั้งสิ้นนั้นมีส่วนช่วยให้การใช้ชีวิตเป็นเรื่องง่ายขึ้นมันไม่จริง

Text: ปนัดดา หมีเงิน,Mr.Daybeds
Photo: เปี่ยมพล จันทร์เปี่ยม
Architect: Mr. Elmar Kleiner บริษัท OIA Office for Interior & Architecture Co., Ltd.

Leave A Comment