BAAN FLOWER CAGE


บ้านสะท้อนตัวตนในอีกด้านของดีเจเอกกี้เอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ์

TEXT: กองบรรณาธิการ
PHOTO: เกตน์สิรี วงศ์วาร

บทบาททางหน้าจอโทรทัศน์ที่หลายคนเคยเห็น คุณเอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ์ หรือ ดีเจเอกกี้ ในฐานะพิธีกรรายการต่างๆ มักจะมีคาแรกเตอร์เด่นชัดด้วยรอยยิ้มและความอารมณ์ดีที่ใครๆ ก็สามารถสัมผัสได้ไม่ยาก หากแต่ในอีกด้านของความเป็นส่วนตัวที่มักไม่ค่อยมีใครได้เห็นเท่าไรนัก เดย์เบดส์กำลังจะพาคุณผู้อ่านเปิดประตูเข้าสู่พื้นที่อันเป็นโลกส่วนตัวของดีเจเอกกี้ เพื่อสัมผัสอีกด้านของชีวิตในวันที่ไม่มีสปอร์ตไลต์ส่องสว่างในฉบับนี้

นี่คือบ้านที่ดีเจเอกกี้ซื้อเก็บเอาไว้เมื่อประมาณ 10 ที่แล้ว ก่อนตัวเขาเลือกที่จะย้ายไปอาศัยอยู่ที่คอนโดฯ ย่านทองหล่อ แต่ก็อย่างที่หลายคนเคยอ่านและผ่านตากับตัวหนังสือที่มักให้นิยามการรีโนเวทอาคารว่าเป็นเรื่องยุ่งยากและซับซ้อน ดังนั้นในการชุบชีวิตบ้านเก่าเพื่อเติมเต็มบ้านในฝันของดีเจเอกกี้ คงจะไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้น้องชายร่วมสายเลือดมาเป็นผู้ออกแบบและรีโนเวทให้อีกแล้ว แน่นอนว่าคำถามแรกที่เรายิงไปหาสถาปนิกจะเป็นคำถามใดไม่ได้นอกเสียจาก “อะไรคือสิ่งที่พี่ชายอยากได้เป็นพิเศษสำหรับบ้านหลังนี้”

“พี่เอกอยากได้ห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำและห้องแต่งตัวในตัว ห้องนั่งเล่นที่ขอให้มีแสงธรรมชาติ มีโต๊ะทานข้าว มีครัว แล้วทำให้น่าอยู่ ความต้องการหลักๆ จะประมาณนี้ ที่เหลือก็เป็นหน้าที่เราที่จะนำเสนอให้เขาดูว่าลวดลายและวัสดุที่เราเลือกให้แบบนี้เขาชอบไหม ด้วยบุคลิกของเขาเวลาอยู่ในหน้าที่จะเป็นแบบหนึ่ง เวลาเขาอยู่กับเราหรือเวลาไปเล่นกีฬาด้วยกันก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง บ้านหลังนี้จึงเป็นบ้านกึ่ง Metaphor เป็นบ้านที่ดูแข็งแรงแต่ว่ามีความอ่อนโยนเหมือนดอกไม้” คุณพงศ์ภัทร เอื้อสังคมเศรษฐ์ อธิบายแนวคิดในการออกแบบ

พื้นที่ในร่มที่ให้ความรู้สึกเสมือนกึ่งกลางแจ้ง เปิดโล่งเพื่อรับเอาความสดชื่นของต้นไม้ และความสว่างของแสงธรรมชาติเข้ามาสร้างบรรยากาศให้มุมนั่งเล่นและส่วนครัว

ห้องนอนของดีเจเอกกี้ตกแต่งโดยเน้นความเรียบง่ายเพื่อเอื้อสำหรับการพักผ่อนได้มากที่สุด

สถาปนิกสร้างบันไดทางขึ้นชั้น 2 แยกส่วนจากบันไดเดิมในบ้าน เน้นความเบาและลอยได้ด้วยวัสดุเหล็กแผ่นรูปนอนเชื่อมยึดกับราวเหล็กแผ่นที่เป็นคานรับน้ำหนักทั้งหมด ส่วนราวกันตกเป็นเหล็กเส้นที่เชื่อมฝากไว้กับแผ่นเหล็กรูปนอนเพื่อช่วยเสริมความแข็งแรงอีกหน่วย

คุณพงศ์ภัทร ร่วมด้วย คุณปานดวงใจ รุจจนเวท สถาปนิกผู้ร่วมก่อตั้งสตูดิโอออกแบบ Anonym ใช้วิธีการอุปมา (Metaphor) ในการสร้างตัวตนให้กับบ้านหลังนี้ เพื่อสื่อความหมายสะท้อนบุคลิกสองด้านของพี่ชายผ่าน ‘ต้นมะกอกเซรามิก’ ที่ได้ คุณอ้อ-พรพรรณ สุทธิประภา ศิลปินเซรามิกจาก Small Studios มาเป็นผู้สร้างสรรค์ จัดเรียงในช่องตารางที่ออกแบบเพื่อสร้างจุดเด่นให้กับเปลือกอาคาร (Façade) ที่ลอยอยู่เหนือโรงจอดรถ ซึ่งเดิมทีพื้นที่ตรงนี้คือโรงจอดรถเก่าของบ้านจัดสรรที่ทุบทิ้งแล้วสร้างใหม่ เพื่อปรับมาเป็นห้องอเนกประสงค์ เมื่อลงลึกในรายละเอียดแล้ว กรงเหล็กดังกล่าวบรรจุเอาต้นมะกอกเซรามิก จำนวน 102 ต้น ลงในช่องว่างเรียงแถวเป็นหน้ากระดานทั้งหมด 4 แถวตรงด้านหน้า และ 3 แถวตรงด้านข้าง อีกทั้งบนก้อนอาคารชั้น 2 นี้ยังเป็นที่มาของการตั้งชื่อเล่นให้กับบ้านพี่ชายหลังนี้ว่า ‘BAAN FLOWER CAGE’ อีกด้วย

ส่วนพื้นที่ภายในบริเวณชั้นล่าง สถาปนิกแก้ไขข้อจำกัดของแปลนเดิมของบ้านที่มีลักษณะปิดทึบ โดยปรับรูปฟอร์มใหม่ให้บ้านมีโถงทางเข้า (Foyer) สำหรับแจกจ่ายไปสู่พื้นที่ใช้สอยอื่นๆ ทั้งในส่วนห้องนอนของพ่อและแม่ ถัดไปจนถึงห้องนั่งเล่น และครัวที่อยู่ด้านในสุดของบ้าน ส่วนเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ส่วนนั่งเล่นและครัว มีการทุบผนังเดิมบางส่วนทิ้งเพื่อเปิดพื้นที่ให้โปร่งและสร้างชายคายื่นยาวออกไปในลักษณะเรือนกระจก เพื่อรับแสงสว่างจากดวงอาทิตย์เข้ามาสร้างบรรยากาศให้บ้านดูน่าพักผ่อนยิ่งขึ้น ในขณะที่ต้นไม้ที่ปลูกเอาไว้ริมรั้วยังทำหน้าที่คล้ายผนังสีเขียวจากธรรมชาติ เข้ามาสร้างความสดชื่นผ่อนคลายด้วยอีกหนึ่งแรง

อีกหนึ่งกิมมิคที่สถาปนิกผู้เป็นน้องชายนำมาใช้ คือการเล่นสนุกกับลวดลายของแผ่นกระเบื้องปูพื้น ล้อไปกับลวดลายและแพทเทิร์นบนเสื้อผ้าที่ดีเจเอกกี้ชอบสวมใส่ อาทิ ส่วนโถงทางเข้าที่ปูพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ในแพทเทิร์นลายก้างปลา ส่วนนั่งเล่นที่ปูพื้นหินอ่อนลายตารางหมากรุกสีขาวดำ หรือส่วนครัวที่ใช้กระเบื้องหินอ่อนสีดำทั้งหมด ซึ่งนอกจากช่วยสร้างมิติที่หลากหลายและสะท้อนตัวตนของผู้อาศัย ยังเป็นการกำหนดพื้นที่ส่วนใช้สอยต่างๆ กลายๆ โดยไม่ต้องใช้การก่อผนังแบ่งขอบเขตให้เกิดความอึดอัด

สุดท้ายคือพื้นที่บนชั้น 2 ที่เปรียบเสมือนกับโลกส่วนตัวขนาดย่อมของดีเจเอกกี้ เพราะทั้งชั้นนี้คือส่วนพักอาศัยที่จัดสรรปันส่วนออกเป็น ห้องนอนเรียบง่ายที่เอื้อสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง ห้องแต่งตัวที่เน้นความหรูหราเคล้าสีสันตามเสื้อผ้าที่ดีเจเอกกี้สวมใส่ ห้องน้ำที่ยังคงหวือหวาด้วยกระเบื้องปูพื้นและกรุผนังในลวดลายเดียวกัน และห้องอเนกประสงค์ที่สร้างขึ้นใหม่เพื่อรองรับกิจกรรมที่หลากหลาย ซึ่งทุกพื้นที่ล้วนแล้วแต่สะท้อนตัวตนของผู้อาศัยในทุกกระเบียดนิ้ว

ส่วนโถงทางเข้าเชื่อมจากหน้าบ้านแจกจ่ายไปสู่พื้นที่ใช้สอยหลักภายในบ้าน

สถาปนิกใช้การเล่นสนุกกับลวดลายของแผ่นกระเบื้องปูพื้นส่วนนั่งเล่นด้วยหินอ่อนลายตารางหมากรุกสีขาวดำ ช่วยสร้างมิติที่หลากหลายและสะท้อนตัวตนของผู้อาศัย ยังเป็นการกำหนดพื้นที่ส่วนใช้สอยต่างๆกลายๆโดยไม่ต้องใช้การก่อผนังแบ่งขอบเขต

 

ห้องนอนของดีเจเอกกี้ตกแต่งโดยเน้นความเรียบง่ายเพื่อเอื้อสำหรับการพักผ่อนได้มากที่สุด

ห้องน้ำบนชั้น 2 เน้นความหวือหวาด้วยลวดลายของกระเบื้องปูพื้นและกรุผนัง

อน้ำเล็กๆ นอกจากเป็นตัวขั้นแบ่งพื้นที่ระหว่างโรงจอดรถกับโถงทางเข้าตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว เมื่อสายลมพัดเข้ามาปะทะกับไอน้ำที่ระเหยขึ้นจากบ่อน้ำ ยังช่วยสร้างความเย็นสบายให้ผ่านช่องหน้าต่างเข้าไปสู่พื้นที่ด้านในได้อีกเช่นกัน

ส่วนห้องนอนของพ่อและแม่ และโถงทางเข้าที่เชื่อมต่อจากโรงจอดรถ

ส่วนห้องนอนของพ่อและแม่ และโถงทางเข้าที่เชื่อมต่อจากโรงจอดรถ

 

Leave A Comment